“แซน กระติก โรเบิร์ต” 3 ผู้ต้องหาคดีแตงโม- นิดา พาเหรดเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมือง นนทบุรี เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม ตามคำสั่งอธิบดีอัยการภาค 1 “แซน” ยันจะไม่ส่งโทรศัพท์มือถือให้ตรวจสอบอีกแล้ว ย้ำข้อมูลเกี่ยวกับคดีทุกอย่างอยู่ในสำนวน ที่เหลือเป็นข้อมูลส่วนตัว แนะให้ติดต่อ “สตีฟ จ๊อบส์” ดึงข้อมูลเอาเอง “กระติก” ขู่เดินหน้าฟ้องคนที่ให้ข่าวทำให้เสียหาย ขณะที่ “โรเบิร์ต” ปิดปากเงียบตามเดิม ด้าน “ปอ-จ๊อบ” ติดธุระขอเลื่อนเข้าให้ปากคำไปก่อน
ยังต้องลุ้นกันต่อกับคดีสุดอลเวง หลังนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม แอบไปยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดนนทบุรี เอาผิดทั้ง 5 คนบนเรือสปีดโบ๊ตในข้อหาฆาตกรรมแตงโม ภัทรธิดา หรือนิดา พัชรวีระพงษ์ ดาราสาวชื่อดัง พร้อมยื่นหนังสือขอให้อธิบดีอัยการภาค 1 สอบหลายประเด็นเพิ่มเติม ต่อมาวันที่ 20 มิ.ย. นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการ สูงสุดแถลงว่า อัยการจังหวัดนนทบุรีได้พิจารณาสำนวนเบื้องต้นแล้วส่งให้นายธีระนนท์ ไหวดี อธิบดีอัยการภาค 1 พิจารณาและแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาสำนวนโดยละเอียด พบมีหลายประเด็นสำคัญต้องสอบเพิ่มเติมให้สิ้นสงสัย ได้สั่งให้พนักงานสอบไปเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ให้สอบเพิ่มส่งกลับมาภายใน 15 วัน จากนั้นวันที่ 23 มิ.ย. อัยการจังหวดนนทบุรี ได้เลื่อนนัดฟังคำสั่งฟ้องกลุ่มผู้ต้องหาไปเป็นวันที่ 7 ก.ค. เพื่อรอผลการสอบสวนเพิ่มเติมดังกล่าว
ความคืบหน้าของคดี เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 3 ก.ค. ที่ สภ.เมืองนนทบุรี น.ส.อิจศรินทร์ หรือกระติก จุฑาสุขสวัสดิ์ อดีตผู้จัดการแตงโม พร้อม นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความ เข้าพบ พ.ต.ท.สมุทร์ เกตุยา รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.เมืองนนทบุรี หนึ่งในคณะพนักงานสอบสวนทำคดีแตงโม นิดา พลัดตกเรือสปีดโบ๊ตเสียชีวิต เพื่อเข้าให้ปากคำตามหมายเรียกของพนักงานสอบสวน ที่ให้ทั้ง 5 คนบนเรือลำเกิดเหตุเข้ามาให้ปากคำเพิ่มตามคำสั่งอธิบดีอัยการภาค 1 จากนั้นกระติกได้เดินขึ้นไปบนชั้น 2 เพื่อให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนทันที
...
ต่อมาเวลา 15.30 น. นายวิศาพัช หรือแซน มโนมัยรัตน์ เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมตามที่พนักงานสอบสวนได้เรียกให้มาพบเช่นกัน และเวลา 16.00 น. นายไพบูลย์ หรือโรเบิร์ต ตรีกาญจนานันท์ เดินทางมาพบพนักงานสอบเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมเป็นคนที่ 3 กระทั่งเวลา 16.30 น. หลังใช้เวลาสอบปากคำนานกว่า 2 ชั่วโมง แซนและกระติกได้ลงมาจากชั้น 2 พร้อมให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว
นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความผู้ต้องหากล่าวว่า พนักงานอัยการได้มีหมายเรียกให้มาสอบสวนเพิ่มในประเด็นพยานวัตถุ และให้นำส่งโทรศัพท์มือถือเพื่อจะขอตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์ของผู้ต้องหา ช่วงวันที่ 22-28 ก.พ. เป็นช่วงก่อนและหลังเกิดเหตุ ประเด็นนี้ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เคยส่งมอบโทรศัพท์ให้พนักงานสอบสวนไปแล้ว แต่ครั้งนี้ไม่อนุญาตให้นำโทรศัพท์ไปตรวจสอบอีก ทั้ง 2 คนยืนยันว่าให้ไม่ได้ ส่วนตัวตนมองว่าเป็นเรื่องขัดต่อรัฐธรรมนูญ สิทธิเสรีภาพของผู้ต้องหา และจะใช้สิทธิ์กรณีนี้ไม่ส่งมอบให้
แซน วิศาพัช กล่าวว่า ตนรู้สึกว่ามันซับซ้อนและเกินความจำเป็นแล้ว เรื่องนี้ผ่านมา 3-4 เดือนแล้ว และในมือถือมีเรื่องส่วนตัว มีธุรกิจ ถ้าหากยังไม่เคยให้ไปตรวจสอบแล้วมาขอ ตนเข้าใจได้ แต่เคยขอมาแล้วและตนให้ไปทุกครั้ง ข้อมูลทั้งหมดมันอยู่ในสำนวนหมดแล้ว สำหรับตนมันสิ้นกระแส ความแล้ว ส่วนคนอื่นถ้ายังเห็นว่ามันไม่สิ้นก็เป็นเรื่องของเขา เผื่อเขาติดต่อ “สตีฟ จ๊อบ” ได้ก็ไปถามดูว่ามีข้อมูลอะไรบ้าง เพราะตอนนี้ในมือถือเหลือแต่ข้อมูลส่วนตัว
ขณะที่กระติก อิจศรินทร์ กล่าวว่า ต่อไปคงจะเดินหน้าฟ้องกับผู้ที่ออกมาให้ข่าวทำให้พวกตนเสียหายอย่างแน่นอน ไม่เอาไว้ เพราะอายุเขาไม่ใช่น้อยแล้ว ควรจะแยกแยะผิดชอบชั่วดีให้ได้ ไม่ใช่อยู่ดีๆนึกอยากจะออกมาด่าใครก็ได้ แล้วก็แถไปเรื่อย มาบูลลี่ เขาไม่ใช่เด็ก ใช้ชีวิตมานานแล้ว ควรจะคิดได้ ผิดยอมรับผิดขอโทษจะดีกว่าไหม เป็นตัวอย่างที่ดีให้เยาวชนคนรุ่นหลังยอมรับ ไม่ใช่ออกมาแถไปวันๆ
นายพรศักดิ์กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังคดีทุกอย่างเข้าสู่กระบวนทางกฎหมาย จะเดินหน้าฟ้องเพราะเราเสียหาย จะไม่พูดคุยนอกรอบ ขอใช้กฎหมายเป็นตัวเจรจา หลังทุกอย่างนิ่ง แซนและกระติกจะเดินหน้าฟ้องแน่นอน ตอนนี้ร่างฟ้องไว้เสร็จหมดแล้ว ทุกคนบนเรือไม่มีใครยอม เขาทำเกินไปมาก มาถึงขนาดนี้แล้วยังไม่คิดจะทำอะไรให้ถูกต้อง ตัวอย่างที่ดียังทำไม่ได้ แล้วคุณจะมาทวงหาอะไรให้คนอื่นได้
เวลา 17.00 น. หลังใช้เวลาสอบปากคำกว่า 1 ชั่วโมง โรเบิร์ตได้ลงมาจากชั้น 2 ผู้สื่อข่าวถามว่าพนักงานสอบสวนสอบเพิ่มประเด็นใดบ้าง โรเบิร์ตไม่ตอบ ก่อนขึ้นรถกลับไป ส่วนนายตนุภัทร หรือปอ เลิศทวีวิทย์ และนายนิทัศน์ หรือจ๊อบ กีรติสุทธิสาธร ผู้ต้องหาอีก 2 คนที่เหลือยังอ้างติดธุระ และแจ้งว่าจะเดินทางเข้าให้ปากคำในวันอื่น