นกกระทาถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีสำหรับเกษตรกรทั้งมือเก่าและมือใหม่ ด้วยลงทุนเลี้ยงครั้งแรกไม่สูงนัก และสามารถใช้ได้ในระยะยาว ให้ผลผลิตเร็ว ไข่ได้ทั้งกินในครอบครัวและขายตัวนกเมื่อปลดระวางมีคนรับซื้อตลอด แม้กระทั่งมูลยังจัดเป็นปุ๋ยชั้นยอดน้องๆมูลค้างคาว จนบางคนเรียกได้ว่ามีรายได้หลักจากมูลนกเลยด้วยซ้ำ เพราะนกกระทาเป็นสัตว์ลำไส้สั้น กินและถ่ายแทบจะตลอดเวลา แถมยังกินอาหารมีโปรตีนเปอร์เซ็นต์สูงกว่า 20% มากกว่าหมู เป็ด ไก่ ที่กินอาหารโปรตีนเฉลี่ย 18% พืชจึงชอบเป็นพิเศษ
“ด้วยประสบการณ์เลี้ยงนกกระทามากว่า 30 ปี ผมเลยมามองกลับว่า ทำอย่างไรให้คนมีพื้นที่น้อย แต่อยากลองเลี้ยงนกกระทาจะมีโอกาสได้เลี้ยงในต้นทุนที่ต่ำ เลี้ยงได้ทุกที่ จึงสร้างกรงพร้อมชุดอุปกรณ์การเลี้ยง และออกแบบระบบเลี้ยงขึ้นมาใหม่ โดยคำนวณความหนาแน่นของนกควรมีกี่ตัวต่อกรง กินอาหารเฉลี่ยวันละเท่าไรต่อตัว ระยะการเลี้ยง รวมถึงความคุ้มค่า จนได้สูตรสำเร็จ จากนั้นเริ่มนำไปแจกให้กับโรงเรียนต่างๆ รวมถึงชุมชนยากไร้ ผลปรากฏว่าทุกคนพอใจมาก ได้ทั้งไข่บริโภคในครัวเรือน ปุ๋ยจากมูล รวมถึงเมื่อนกปลดระวางหรือตาย ยังเอามาประกอบอาหารได้”
...
เอนก สีเขียวสด เจ้าของเอนกฟาร์มนกกระทา ฟาร์มเลี้ยงนกกระทาและผลิตภัณฑ์จากนกกระทาครบวงจรขนาดใหญ่ที่สุดในอาเซียน ต.ป่างิ้ว อ.เมือง จ.อ่างทอง ปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน สาขาปราชญ์เกษตรผู้ทรงภูมิปัญญาและมีคุณูปการต่อภาคการเกษตรไทยปีล่าสุด บอกถึงที่มาของนกกระทาคอนโดที่สามารถเลี้ยงได้ทุกที่ในราคาประหยัด
อุปกรณ์ 1 ชุด ประกอบไปด้วยกรงขนาด 60×90 ซม. สูง 20 ซม. เลี้ยงนกกระทาได้ 25 ตัว รางให้อาหารที่มีตาข่ายคอยกันไม่ให้อาหารกระเด็น ออกเวลานกจิกกิน ขวดน้ำระบบน้ำไหลอัตโนมัติ
ส่วนรายละเอียด ของการเลี้ยง...นกกระทา 1 กรง ให้อาหารวันละครั้ง ค่าอาหารเฉลี่ยวันละ 10-12 บาท ออกไข่ทุกวัน โดยมีอัตราไข่ 80-90% เลี้ยงได้ประมาณ 1 ปี จึงปลดระวาง ตลอดการเลี้ยงจะได้ไข่ไม่น้อยกว่า 7,000 ฟอง ควรตั้งหรือแขวนกรงไว้บริเวณที่สัตว์อื่น เช่น หมา แมวไม่รบกวน ไม่มีฝนสาดหรือแดดส่องมากเกินไป ที่สำคัญควรมีฟางหรือกระดาษพื้นกรง เพื่อเก็บมูลนกไว้ทำปุ๋ย
“ส่วนตัวมองว่าเป็นอีกตัวเลือกสำหรับใครที่ยังไม่รู้จะเริ่มทำเกษตรอะไรดี รวมถึงสตาร์ตอัพที่จะเริ่มต้นอาชีพเกษตร ขณะเดียวกันยังเป็นแบบฝึกหัดอย่างดีสำหรับครอบครัวที่จะทำให้เกิดกิจกรรมร่วมกัน พ่อแม่คอยดูแลอยู่ห่างๆให้ลูกให้อาหารให้น้ำ เด็กก็จะเริ่มรู้จักหน้าที่ เกิดความรับผิดชอบ เมื่อออกไข่เด็กจะเริ่มภูมิใจกับสิ่งที่ทำไปจนออกดอกออกผล ลูกเก็บไข่ให้แม่ทำอาหาร ก็เกิดกิจกรรมร่วม เมื่อไข่มากขึ้นก็เอาไปขาย ก็เสมือนได้เรียนรู้โลกแห่งการขาย อันจะปูทางไปสู่เจ้าของธุรกิจในวันข้างหน้า ขี้เต็มก็เอาไปใส่ต้นไม้ ทุกกิจกรรมเกิดประโยชน์ทั้งหมดต่อทั้งตัวเด็กและครอบครัว”
สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่ 08-1652-5666.
กรวัฒน์ วีนิล