"มนัญญา" ย้ำ ไทยปลอดพืช GMO เตือนประชาชนไม่ซื้อ ไม่ขาย "สับปะรดสีชมพู" หากพบใครครอบครองเอาผิดตามกฎหมายทันที

เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 65 นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีที่มีการระบุว่ามีการพบสับปะรดเนื้อสีชมพูซึ่งเป็นพืชตัดต่อพันธุกรรมหรือจีเอ็มโอ (GMO) ว่า ได้ให้กรมวิชาการเกษตรตรวจเข้มทุกพื้นที่เพราะประเทศไทยมีนโยบายปลอดพืชจีเอ็มโอ ไม่มีการอนุญาตนำเข้าแต่อย่างใด ดังนั้นฝากเตือนประชาชนว่าอย่านำเข้าพืชดังกล่าวหรือสนับสนุนในการซื้อขาย เพื่อรักษาชื่อเสียงของประเทศไทย

"กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมวิชาการเกษตรไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด ได้มีการติดตามตรวจสอบต่อเนื่อง และจะยิ่งเข้มข้นเพิ่มมากขึ้น ต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยกันเป็นหูเป็นตา เพราะลำพังภาครัฐบางครั้งจำกัดด้วยกำลังคน โดยเฉพาะยุคที่การซื้อขายผ่านระบบออนไลน์ที่มีการส่งสินค้ากันมาก ทำให้สุ่มเสี่ยงกับการส่งของผิดกกฎหมาย ดังนั้นฝากประชาชนถ้าพบเห็นให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรฯ ทันที" นางสาวมนัญญากล่าว

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า กรมฯ ยืนยันว่าไทยไม่มีการอนุญาตให้นำเข้าพืชจีเอ็มโอ ซึ่งกรณีสับปะรดสีชมพู (Pinkglow) ของบริษัท Del Monte ดังกล่าวปลูกในประเทศคอสตาริกา และเป็นพืชจีเอ็มโอ ไม่มีการอนุญาตให้นำเข้าหรือจำหน่ายแต่อย่างใด ซึ่งกรมฯ ยังได้เคยติดต่อไปสื่อออนไลน์ที่โฆษณาจำหน่ายได้รับการแจ้งว่าไม่มีสินค้า และรายที่โฆษณาว่ามีหน่อพันธุ์จำหน่ายนั้นพบว่าเป็นสับปะรดประดับซึ่งไม่ใช่พืชจีเอ็มโอ นอกจากนั้นยังได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังการนำเข้าและกรณีการโฆษณาขายผ่านสื่อโฆษณา หากพบจะเข้าดำเนินการทันที

...

"ขอฝากเตือนผู้ลักลอบนำเข้าว่าหากพบ ท่านจะมีโทษตามกฎหมายตามพ.ร.บ.กักพืช พ.ศ. 2507 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากตรวจพบว่ามีการลักลอบซื้อ-ขาย หรือปลูกสามารถยึดอายัดและทำลายได้ทันที ผู้ซื้อ-ผู้ขาย เรียกร้องค่าเสียหายจากใครไม่ได้ ดังนั้นมีแต่เสียด้านเดียว จึงขอวอนพี่น้องประชาชนว่าอย่าสนับสนุนพืชดังกล่าว ซึ่งกรมฯ จะจัดทำโปสเตอร์แสดงชนิดพืชสับปะรดสีชมพูเพื่อเป็นเครื่องมือช่วยพี่น้องประชาชนช่วยตรวจสอบอีกทางหนึ่ง" นายระพีภัทร์กล่าว

สำหรับพืชสับปะรด หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของสับปะรด Ananas Comosus(L)Merr.  จัดเป็นสิ่งที่ต้องห้ามภายใต้พ.ร.บ.กักพืช พ.ศ. 2507 และที่แก้ไขเพิ่มเติม สามารถนำเข้าได้เฉพาะจากแหล่งที่ผ่านการวิเคราะห์ความเสี่ยงศัตรูพืชเท่านั้น ปัจจุบันอนุญาตให้นำเข้าจากประเทศฟิลิปปินส์แหล่งเดียว หากนำเข้าจากแหล่งที่ยังไม่ผ่านการวิเคราะห์ฯ จะถูกส่งกลับหรือทำลาย และผู้กระทำผิดต้องรับโทษด้วย