เมื่อวานนี้ 31 พฤษภาคม องค์การอนามัยโลก กำหนดให้เป็น “วันงดสูบบุหรี่โลก” เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนและผู้มีอำนาจรัฐ ได้ตระหนักถึงพิษภัยอันตรายของบุหรี่ที่มีต่อสุขภาพของประชาชนและสังคมส่วนรวม ทำให้เจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงและเสียชีวิตก่อนวัยอันสมควร แต่ก็มีบางรัฐบาล เช่น รัฐบาลไทยชุดปัจจุบัน มีรัฐมนตรีบางคนออกมาประกาศสนับสนุนบุหรี่ไฟฟ้าอย่างโจ๋งครึ่ม แต่ “นายกรัฐมนตรี” ผู้นำรัฐบาลก็วางเฉย สะท้อนถึง ภาวะผู้นำที่ขาดความรับผิดชอบต่อสังคมและสุขภาพของประชาชนโดยรวม ก็สมควรแล้วที่ฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ประเด็นการรณรงค์ “วันงดสูบบุหรี่โลก” ปีนี้เป็นประเด็นที่น่าสนใจมาก องค์การอนามัยโลก ได้ชี้ให้เห็นถึง “วงจรอันตราย” ของบุหรี่ทุกชนิด ไม่เพียงทำลายชีวิต สร้างโรคร้ายทำลายสุขภาพ แต่ยังทำลายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วย
ศ.เกียรติคุณ นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ที่เพิ่งได้รับ รางวัล Dr Lee Jong-wook Memorial Prize for Public Health Awards WHO จากองค์การอนามัยโลก เปิดเผยถึงประเด็นที่ องค์การอนามัยโลก กำหนดให้รณรงค์ในปีนี้คือ “Tobacco : Threat to our environment บุหรี่ทำลายสิ่งแวดล้อม” โดยระบุว่า “ยาสูบวางยาพิษให้แก่โลก ตลอดวงจรชีวิตยาสูบ สร้างมลพิษให้แก่โลก ทำลายสุขภาพของทุกคน”
องค์การอนามัยโลก ได้เปิดเผยถึง วงจรยาสูบในการทำลายสิ่งแวดล้อม เริ่มตั้งแต่ การทำไร่ยาสูบ นำไปสู่ การตัดไม้ทำลายป่า สร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม มีการประเมินว่า พื้นที่ป่าและป่าไม้กว่า 200,000 เฮกตาร์ทั่วโลก (1.25 ล้านไร่) ถูกตัดลงในแต่ละปี คิดเป็นร้อยละ 1.7 ของการตัดไม้ทำลายป่าทั่วโลก และร้อยละ 4.6 ของการตัดไม้ทำลายป่าในประเทศกำลังพัฒนาเพื่อใช้ทำไร่ยาสูบและบ่มยาสูบ ทำให้ผืนดินแห้งแล้ง การบ่มใบยาสูบ ต้องใช้ไม้จำนวนมากเพื่อทำให้ใบยาสูบแห้ง เกิดมลพิษทางอากาศ
...
การปลูกพืชยาสูบ (โดยเฉพาะยาสูบเชิงเดี่ยว) ทำให้ดินขาดสารอาหาร (โปแตสเซียม ฟอสฟอรัส และไนโตรเจน) ทั้งยังทำให้เกิดมลพิษในดินและน้ำจากการใช้ยาฆ่าแมลงและปุ๋ยหลายชนิด ก่อให้เกิดการปนเปื้อนในน้ำบาดาลและน้ำดื่ม การใช้สารกำจัดศัตรูพืชในระดับสูงยังทำให้ยุงและแมลงสามารถต้านทานโรคได้ และแพร่กระจายโรคที่มีแมลงเป็นพาหะ เช่น มาลาเรีย
การผลิตยาสูบยังนำไปสู่การผลิตของเสีย เช่น ตัวทำละลายและสารละลายน้ำมัน ไม้ พลาสติก กระดาษ และของเสียจากสารเคมีที่เป็นพิษ การกำจัดก้นบุหรี่ ถุงบรรจุยาสูบซอง และกล่องบุหรี่ ในการทำความสะอาดชายฝั่งทะเลระหว่างประเทศในปี 2556 ที่จัดขึ้นใน 92 ประเทศพบว่า ก้นบุหรี่เป็นขยะที่พบได้บ่อยที่สุด คิดเป็นร้อยละ 15 ของขยะทั้งหมด น้ำปนเปื้อนจากก้นบุหรี่เป็นพิษร้ายแรงต่อปลาทะเลและปลาน้ำจืดบางชนิดแต่ละปีมีก้นบุหรี่ถูกทิ้งมากถึง 4.5 ล้านล้านชิ้นทั่วโลก บุหรี่และก้นกรองบุหรี่ประกอบด้วยพลาสติกและสารพิษถึง 7,000 ชนิด
การสูบบุหรี่ จึงเป็น การฆ่าตัวตายทางตรงทุกวัน ให้ร่างกายตายไปทีละน้อยทุกวัน และสร้างโรคร้ายจากบุหรี่ให้เกิดขึ้นในร่างกายอย่างเงียบๆและทำลายชีวิตในที่สุด
ลองไปทบทวน อันตรายของบุหรี่ต่ออวัยวะต่างๆ กันเสียหน่อยนะครับ โดยเฉพาะ “บุหรี่ไฟฟ้า” เริ่มกันที่ สมอง ก่อนเลย บุหรี่ไฟฟ้าทำให้ผู้เสพติดมีอารมณ์แปรปรวนหุนหัน เกิดความไม่สมดุลของฮอร์โมน ระคายเคืองตา มองไม่ชัด ในปากทำให้ เหงือกอักเสบ หัวใจจะเต้นเร็วขึ้น เต้นผิดจังหวะ ความดันสูงขึ้น เกิดการเกาะตัวของเกล็ดเลือด เกิดไขมันพอกตับ ปอดและหลอดลมระคายเคือง ฯลฯ ล้วนนำไปสู่โรคร้ายแรงและตายอย่างทรมานในที่สุด
เลิกสูบบุหรี่ เถอะครับ เพื่อตัวเอง ครอบครัว และ สิ่งแวดล้อม.
“ลม เปลี่ยนทิศ”