สสจ.ชัยภูมิ เตือนรักษาโรคกับสำนักประหลาด ใช้สารคัดหลั่ง เสมหะ ปัสสาวะ รักษาโรค เสี่ยงติดเชื้อเข้ากระแสเลือดเสียชีวิต

วันที่ 9 พฤษภาคม 2565 นายแพทย์วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ ได้ออกมาพูดถึงกรณีที่ "หมอปลา" ได้นำนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.ชัยภูมิ พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ อ.ภูเขียว อ.คอนสาร บุกค้นสำนักประหลาด ในพื้นที่ ต.ดงกลาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ได้บุกจับพระบิดาอ้างว่าเป็นพ่อทุกศาสนา

หลังจากที่ หมอปลา ได้รับเรื่องขอความช่วยเหลือจากผู้เสียหายซึ่งเป็นลูกสาวของผู้เป็นแม่ที่ป่วยได้ร้องทุกข์กับหมอปลา อยากพาแม่ไปรักษา รพ. ความดันที่โรงพยาบาล แต่แม่มาอยู่กับเจ้าลัทธิ อ้างตนเป็นเจ้าสำนักใหญ่กว่าทุกศาสนา แม่อยู่มาปีกว่า พบว่ายาที่รักษาแม่ คือ ให้แม่กินปัสสาวะ สเลด อุจจาระ โดยอ้างว่ากินแล้วจะขึ้นสวรรค์ และหายปกติ นอกจากนี้ยังพบศพอีก 11 ศพ โดยยังไม่มีเอกสารยืนยัน 5 ศพ และให้ลูกศิษย์กินฉี่ กินสเลด กินขี้ไคล เพื่อเป็นยารักษา

ภายในสำนักประหลาดพบชายสูงอายุรูปร่างผอม ผมยาว หงอกขาว ซึ่งที่อ้างตัวว่าเป็นพระบิดาของทุกศาสนา เบื้องต้นทางตำรวจได้เชิญตัวชายสูงอายุคนดังกล่าวออกจากสำนัก ท่ามกลางเสียงร้องตะโกน ต่อต้านของลูกศิษย์ที่ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่นำตัวชายสูงอายุคนดังกล่าวออกไป โดยผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิได้ให้เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวชายสูงอายุอ้างตนเป็นพระบิดาของทุกศาสนา ส่ง สภ.คอนสาร เพื่อส่งพนักงานสอบสวน เบื้องต้นมีการแจ้งข้อหาบุกรุกที่สาธารณะ ส่วนกรณีร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 11 ราย อยู่ระหว่างตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งตามขั้นตอนตามกฎหมายว่าเป็นศพใครบ้าง

...

นายแพทย์วชิระ กล่าวอีกว่า การนำสารคัดหลั่งจากซากศพนำมาทาหน้าบ้าง หรือดื่มปัสสาวะบ้าง ใช้ขี้ไคลในการรักษาโรคบ้าง หรือใช้กระทั่งเสมหะในการรักษาโรค สิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นของเสียที่ร่างกายขับออกมา ซึ่งอาจจะมีเชื้อโรคปนเปื้อนมา

ฝากเตือนพี่น้องประชาชนต้องระวังให้มาก ไม่ควรเชื่อว่าจะช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ ต้องระวังให้มากที่สุด โดยเฉพาะโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ ผู้ที่ไปรวมกลุ่มแบบนั้นก็หลายคนที่ไม่ได้ป้องกันตัวเอง ไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัย อยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ไม่สะอาดก็ไม่ปลอดภัย อาจจะทำให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อโรคได้

ต้องขอเตือนพ่อแม่พี่น้องประชาชน ตอนนี้เรามีสวัสดิการรักษาพยาบาลมากมายที่รัฐบาลช่วยดูแลพี่น้องอยู่ อย่าได้ตกเป็นเหยื่อ อย่าหลงเชื่อบุคคลแอบอ้างใช้เรื่องของอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ในการสร้างศรัทธาและทำให้ท่านหลงเชื่อและความรู้ที่ผิดๆ

ในวันนี้ (9 พฤษภาคม) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิได้ลงพื้นที่เพื่อประสานการในการดำเนินการในเรื่องของการตรวจชันสูตรซากศพแล้ว รวมทั้งจะสำรวจพื้นที่เพิ่มเติมในเรื่องอื่นๆ รวมทั้งให้ทุกอำเภอใน จ.ชัยภูมิ ได้สำรวจว่ามีการกระทำในลักษณะเช่นนี้อีกหรือไม่ เราจะได้ดำเนินการในส่วนของกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคคุ้มครองสวัสดิภาพความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนไม่ปลอดภัย

การที่ใช้ของเสียร่างกายมารักษาโรค เป็นเรื่องที่ไม่ควรนำเข้าสู่ร่างกาย อาจทำติดเชื้อในกระแสเลือดและเสียชีวิตได้ ซึ่งในการลงพื้นที่จะมีการหารายละเอียดมีการชวนเชื่อหรือไม่ มีการเรียกรับผลประโยชน์หรือไม่ ซึ่งการนำสิ่งที่เป็นของเสียที่ขับออกจากร่างกายเป็นคราบไคลเป็นปัสสาวะเป็นเสมหะ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นกระบวนการภายในของร่างกายที่จะขับของเสียที่ร่างกายไม่ต้องการออกมา ซึ่งถ้าเรานำกลับเข้าไปอีกก็จะเป็นโทษ ไม่ว่าจะเป็นโดยการทา การดื่ม อันนี้ต้องเตือนไปยังพี่น้องประชาชนครับว่าไม่สมควร

สำหรับชื่อของเจ้าลัทธิสำนักประหลาด ได้รับแจ้งจาก พ.ต.อ.วัฒนชัย จันทาทุม ผกก.สภ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ทราบชื่อ นายทวี หนันลา อายุ 74 ปี บ้านเลขที่ตามบัตรประชาชนเลขที่ 79 หมู่ 1 ต.หนองเรือ อ.หนอเรือ จ.ขอนแก่น ได้เข้ามาอยู่ในพื้นที่ป่าสาธารณะ บ้านกุดแคน หมู่ 2 ต.ดงกลาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ เมื่อ 10 ปีกว่าที่ผ่านมา และเริ่มมีชื่อเสียงโด่งดัง มีผู้นับถือจำนวนมากเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน.