"กระทรวงยุติธรรม" เผยสถานการณ์โควิด-19 "กรมราชทัณฑ์" ภาพรวมสถานการณ์ดีขึ้นชัดเจน ผู้ติดเชื้อ-เสียชีวิตลดลง ขณะที่เรือนจำทุกแห่ง สามารถควบคุม-ป้องกันการระบาดได้อย่างเป็นระบบ
เมื่อวันที่ 2 พ.ค. 65 ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภายในสถานที่ควบคุมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม หรือ ศบค.ยธ เป็นประธานการประชุมติดตามการดำเนินงานตาม 5 แผน งานการป้องกันและแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ภายในสถานที่ควบคุมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ครั้งที่ 13/2565 โดยมี น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายณรงค์ จุ้ยเส่ย รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ น.ส.ศิริประกาย วรปรีชา รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ผ่านระบบการประชุมทางไกล (Video Conference) ร่วมกับผู้บัญชาการเรือนจำในจังหวัด ที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิดฯ
โดย นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรมและโฆษก ศบค.ยธ.เปิดเผยว่า ภาพรวมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน ว่า ยังคงไม่พบเรือนจำระบาดใหม่ต่อเนื่อง โดยเรือนจำและทัณฑสถานทุกแห่งได้พ้นจากการเป็นเรือนจำแพร่ระบาด และควบคุมการระบาดได้อย่างเป็นระบบ ทั้งระบบการค้นหาผู้ติดเชื้ออย่างรวดเร็วเพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที การคัดกรอง คัดแยกผู้ติดเชื้อ ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง และผู้ไม่ติดเชื้อออกจากกัน ทำให้เรือนจำยังคงสามารถปฏิบัติงานได้ตามปกติ
...
ขณะที่ผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ พบเพิ่ม 32 ราย ซึ่งทั้งหมดเป็นการพบในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับเข้าใหม่จากภายนอก จึงมีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ทั้งสิ้น 462 ราย เป็นกลุ่มสีเขียว 83.5% กลุ่มสีเหลือง 15.6% และกลุ่มสีแดง 0.9% มีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 91,780 ราย หรือ 96.7% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 94,932 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต จึงมีผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 205 ราย หรือ 0.21% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด และในส่วนของการดำเนินการฉีดวัคซีน แก่ผู้ต้องขังของกรมราชทัณฑ์นั้น ปัจจุบันมีผู้ต้องขังที่ยังอยู่ในเรือนจำและทัณฑสถานได้รับการฉีดวัคซีนจนครบโดสแล้ว จำนวน 245,135 ราย หรือคิดเป็น 92.13% ของจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 266,076 ราย
นายวัลลภ กล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุม ศบค.ยธ. โดยปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานการประชุมในช่วงเช้าวันนี้ พบว่าสถานการณ์โดยรวมยังคงดีขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการแบ่งพื้นที่เพื่อบริหารจัดการเรือนจำเมื่อพบการติดเชื้อในแดนอย่างเป็นระบบ ทำให้สามารถควบคุมการระบาดและช่วยให้เรือนจำยังคงสามารถปฏิบัติงานเรือนจำได้ตามปกติ ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่พบว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงอัตราการเสียชีวิตที่ลดลง ทั้งนี้ ได้กำชับให้เรือนจำและทัณฑสถาน เร่งดำเนินการฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังให้ครบโดสทุกราย ทั้งในรายที่เข้าใหม่หรือผู้ที่ติดเชื้อและได้รับการรักษาหายแล้ว ตลอดจนการตรวจและป้องกันโรคที่ยังคงต้องดำเนินการอย่างเข้มข้นต่อไป
ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิดฯ ของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ประจำวันจันทร์ที่ 2 พ.ค. 65 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 25 ราย และอยู่ระหว่างการรักษาตัวรวมจำนวน 452 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ 88 ราย เด็กและเยาวชน 364 ราย ด้านผลการดำเนินงานสถานพินิจฯ/ศูนย์ฝึกและอบรมฯ สีขาว มีจำนวน 24 แห่ง จากทั้งหมด 56 แห่ง โดยพบว่ามีการติดเชื้อ 30 แห่ง และหมดสถานะ 2 แห่ง ขณะที่สถิติการฉีดวัคซีนของเด็กและเยาวชน จำนวน 3,161 ราย หรือคิดเป็น 91% จากทั้งหมด 3,461 ราย และเจ้าหน้าที่ได้รับการฉีดวัคซีน จำนวน 4,005 ราย หรือคิดเป็น 93% จากทั้งหมด 4,307 ราย.