ผู้ตรวจการแผ่นดิน เดินหน้าตรวจสอบสำนักงานศูนย์ราชการหลังรับเรื่องร้องเรียนพบปัญหาอื้อ! ผู้เชี่ยวชาญพบความสะอาด-ฝุ่นละออง-จราจรอยู่ต่ำกว่าเกณฑ์ เป็นที่เพาะเชื้อไวรัส หวั่นข้าราชการป่วยยกตึก

เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นางผาณิต นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า จากกรณีสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เป็นตัวแทนบุคลากรที่ปฏิบัติงานในศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดินขอให้พิจารณาและสอบสวนข้อเท็จจริง การบริหารงานของบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนด้านปัญหาสุขอนามัยต่าง ๆ ความสะอาดของพื้นที่ อากาศและฝุ่นละออง การจราจร สถานที่จอดรถยนต์ รถรับ-ส่ง ภายในศูนย์ราชการฯ และจำนวนร้านอาหารที่ไม่เพียงพอ ขาดคุณภาพ ราคาแพงนั้น เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยคณะผู้ตรวจการแผ่นดินได้ร่วมประชุมหารือเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ แล้ว และได้รับแจ้งความคืบหน้าจาก ธพส.ว่า ภายในต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ จะจัดศูนย์อาหารให้ดีขึ้น เนื่องจากปัจจุบันยังติดปัญหากับทางผู้เช่ารายเดิมอยู่ ด้านความสะอาดภายในอาคารได้กำชับให้ผู้รับเหมาดูแลทำความสะอาดมากขึ้นกว่าเดิม รวมถึงจะทำการจัดสรรที่จอดรถใหม่ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น

นางผาณิต กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับปัญหามลภาวะอากาศและฝุ่นละอองนั้น นับเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไข เพราะส่งผลต่อสุขภาพของบุคลากรที่อยู่ภายในอาคาร ทำให้เจ็บป่วยง่ายทั้งเป็นหวัด ภูมิแพ้อากาศ น้ำมูกไหล คันตา ไอระคายคอ ปวดคอ ปวดหัว เป็นต้น โดยได้มีการว่าจ้างบริษัทเอกชนเข้ามาทำการตรวจวัดปริมาณก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และฝุ่นละอองภายในอาคารบริเวณชั้น 1, 5, 7 และ 9 ของทุกสำนักงาน ซึ่ง Dr.Jackson Tseng Chia-Hsin ผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบคุณภาพอากาศจาก Piahstreams Consultant Services, INC. USA รายงานผลว่า ไม่มีส่วนไหนเลยที่ผ่านเกณฑ์ตามค่ามาตรฐาน กล่าวคือ ค่ามาตรฐานมีค่ากำหนดของปริมาณฝุ่นละอองอยู่ที่ 350 ไมครอนต่อตารางเมตร ค่าต่ำที่สุดของอาคารนี้ยังมากเป็น 2 เท่าของค่ามาตรฐาน โดยเฉพาะห้องประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ชั้น 9 ซึ่งตรวจพบในปริมาณที่มากที่สุด 4,337 ไมครอนต่อตารางเมตร นอกจากนั้นยังพบความชื้นในอากาศไม่สมดุล ทำให้เกิดน้ำหยดลงมาจากท่อแอร์ การที่น้ำหยดลงมาทำให้เกิดความชื้นขึ้น ส่งผลโดยตรงต่ออุปกรณ์เครื่องตกแต่งสำนักงาน ความชื้นทำให้เกิดการสะสมของเชื้อโรค เชื้อไวรัส และเชื้อรา แม้เชื้อไวรัสจะมีชีวิตอยู่ในอากาศไม่กี่ชั่วโมง แต่ถ้าเชื้อไวรัสไปเกาะกับเชื้อราจะมีอายุได้นานถึง ๖ เดือน

“ที่เลวร้ายกว่านั้น ความชื้นส่งผลทางปฏิกิริยาเคมีกับวัสดุตกแต่งสำนักงานทำให้เกิดสารพิษขึ้นได้ และ Dr.Jackson ได้ ไปตรวจสอบห้องทำความเย็นควบแน่น ปรากฏว่ามีน้ำหยดตลอดเวลา ฝ้าเพดาน มีความชื้นสูง และฝ้าบางส่วนมีการทาสีทับใหม่ ซึ่งการทาสีใหม่ไม่ใช่การแก้ปัญหา แต่เป็นการปกปิดปัญหา และจะทำให้เกิดปัญหาเพิ่มขึ้น เนื่องจากความชื้นที่สูงมากจะไปทำปฏิกิริยาทางเคมีกับสีทาภายในวัสดุตกแต่ง สำนักงาน ทำให้เกิดมลพิษในอากาศได้ และเนื่องจากอาคารนี้เป็นระบบปิด หากมีเชื้อราปนเปื้อนในอากาศก็จะไหลเวียนอยู่ภายในอาคาร ทำให้เราสูดหายใจแต่อากาศที่ปนเปื้อนสิ่งสกปรกตลอดเวลา ต้องแก้ไขปรับปรุงการบำรุงรักษาระบบปรับอากาศให้ดีขึ้นอย่างเร่งด่วน” ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าว

อย่างไรก็ตาม นางผาณิต กล่าวว่า เราคงไม่ต้องการให้ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถูกประกาศเป็น “ตึกป่วย (Sick Building)” เหมือนในสหรัฐอเมริกา ที่พบคนในอาคารป่วยด้วยโรคที่คล้ายกันเกินร้อยละ 2 ซึ่งศูนย์ราชการฯ มีคนทำงานประมาณหมื่นกว่าคน หากมีสองร้อยคนป่วยด้วยโรคคล้าย ๆ กัน อาคารนี้ก็จะเป็นตึกป่วยทันที สุขภาพของทรัพยากรบุคคลนั้นจึงสำคัญต่อเนื่องกับการทำงานให้กับประเทศชาติ

...