เคล็ดบูชา คาถาหัวใจเศรษฐี “อุ อา กะ สะ” ให้ท่องวันละ 3-9 ครั้ง จักร่ำรวยเงินทอง ทรัพย์สินไหลมาไม่ขาดสาย
อีกทั้ง “คนไทย” แต่โบร่ำโบราณก็ยังมีความเชื่อเกี่ยวกับ “ไซ แห อวน” เรียกทรัพย์ ด้วยว่าเป็นเครื่องมือจับปลาชนิดหนึ่งที่แปรเปลี่ยนมาเป็นเครื่องรางของขลัง สืบค้นบางตำราก็กล่าวถึงคำโบราณที่เรียกกันว่า “ท้าวพันตา พญาพันวัง” ที่ถูกยกให้เป็นของขลังคุ้มครองภัยพาน...
คำว่า “พันตา” หมายถึงตาข่ายของแหที่มีมากมายนับไม่ถ้วนเป็นร้อยๆพันๆช่อง
ส่วน “พันวัง” ก็คือเครื่องมือนี้สามารถนำไปใช้ดักปลาได้เป็นพันวังน้ำ
นิทานโบร่ำโบราณเรื่องหนึ่งเล่าถึงชายหาปลาคนหนึ่งดั้นด้นเดินทางไปหาปลายังที่ห่างไกลต่างถิ่นฐานบ้านเกิด ขณะพักค้างแรมก็บังเอิญไปได้ยินเสียงผี วิญญาณไม่ทราบได้โหยหวนชวนขวัญสยองมุ่งหมายเข้ามารายล้อม ด้วยตัวเองก็ไม่ได้มีวิชาอาคมติดตัวแต่อย่างใดสักอย่าง...ครั้นจะหันหนีไปทางใดก็ไม่ได้ด้วย

...
เขาก็เลยตัดสินใจใช้เบ็ดราว เครื่องมือหาปลาต่างๆมาวางล้อมรอบตัวเองเอาไว้ แล้วก็เอาแหขึ้นไปแขวนกางคลุมด้านบนเหมือนมุ้งปกป้องตัวเอง แล้วตั้งจิตอธิษฐานภาวนาขอพึ่งบารมีท้าวพันตา พญาพันวัง
ปรากฏว่า...ภูตผีที่รายล้อมเขาอยู่นั้นไม่สามารถเข้ามารบกวนได้เลย
ความเป็นจริงทางออกของคนค้าขายหากไม่หวังพึ่งสิ่งที่มองไม่เห็น ก็ต้องพยายามลดต้นทุน ค่าใช้จ่ายต่างๆที่ไม่จำเป็นตัดออกไปก่อน เรื่องไหนเป็นสิ่งฟุ่มเฟือยให้ตัดทิ้งได้เลยอย่างเด็ดขาด
กระนั้นต้องย้ำกันเสมอว่าในเรื่องของขลัง ศรัทธา...ไม่มีใครห้ามใครได้ ขอให้เล่นหากันได้ตามกำลังศรัทธาและกำลังทุนทรัพย์ที่พึงมี จักได้ไม่ต้องมานั่งตรม ทุกข์ เพราะที่มาของศรัทธานั้นราคาแรง
O O O O

กานดา บำรุง อายุ 55 ปี เจ้าของร้านรุ่น ที่ 3 ลูกสะใภ้แห่งตำนาน “ก๋วยเตี๋ยวตู้ไม้โบราณ วัดอนงค์” ซอย 1 หลังวัดอนงคารามวรวิหาร ถนนสมเด็จเจ้าพระยา แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร เป็นอีกหนึ่งคนทำมาค้าขาย ทุกเช้าก็จะทำการไหว้ “ปักกุง”
เพื่อให้การค้าการขายราบรื่น ขายดิบขายดี ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข ชีวิตราบรื่น
เธอเล่าให้ฟังว่า คนจีนเรียก “ปักกุง” หรือ... คนไทยก็จะเป็น...“เจ้าที่เจ้าทาง” ศาลพระภูมิ ของคนจีนจะอยู่ในบ้าน เรามีเชื้อสายจีนแคะเชื่อว่าไหว้แล้วจะร่มเย็น ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุขมีความสุข ค้าขายคล่อง

“ปักกุง” ลูกๆหลานๆตั้งจิตมั่น กราบไหว้บูชาน้อมนำ อธิษฐาน ที่ต้องทุกข์ก็ขอให้พ้นทุกข์ ส่วนที่มีสุขก็ขอให้มีสุขยิ่งๆขึ้นไป
นอกจากนี้ ขอสอดแทรกความรู้ไว้อีกว่า ตี่จู่เอี๊ยะ คือ ศาลเจ้าที่ในบ้านตามความเชื่อของคนไทยเชื้อสายจีน ด้วยการอัญเชิญเทพเจ้าแห่งพื้นดินมาประทับไว้ในศาลที่ขนาดเล็กที่วางไว้ติดกับพื้นดินภายในบ้าน
เมื่อคนในบ้านมีเรื่องทุกข์ร้อนใจ หรือมีกิจกรรมที่ต้องตัดสินใจ ก็จะมาจุดธูปแจ้งบอกกับเจ้าที่ เพื่อให้กิจกรรมนั้นดำเนินไปอย่างราบรื่น
การสร้างศาลขึ้นมาให้เทพเจ้าแห่งผืนดิน “ถู่ตี้กง” สถิตของชาวไทยเชื้อสายจีนนั้น มีตำนานมายาวนาน คาดว่ามีมาไม่น้อยกว่า 1,000 ปีล่วงมาแล้ว โดยชื่อของเทพเจ้าแห่งผืนดินนี้มีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไปตามมณฑลที่กว้างขวางของประเทศจีน
...

ซึ่งตำนาน “เทพเจ้าถู่ตี้กง” นั้นตามความเชื่อของชาวจีนในอดีต ฮ่องเต้คือบุตรของพระเจ้า สามารถแต่งตั้งสถาปนาเทพได้ ในรัชสมัยฮ่องเต้พระองค์หนึ่งได้แต่งตั้งเทพเจ้าจากศาลบูชาฮกเต็กของหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เป็น “เทพโหวโท่ว” หรือ “ถู่ตี้กง”...มีความหมายว่าเทพเจ้าแห่งผืนดิน
ตำนานของเทพองค์นี้ เป็นผู้ที่มีความกตัญญู ตามตำนานการกำเนิดตี่จู่เอี๊ยะ เล่าว่า หมู่บ้านแห่งหนึ่งมีพิธีกรรมไหว้เทพเจ้าด้วยการตั้งศาลฮกเต็ก ภายหลังหมู่บ้านแห่งนี้มีผู้ประสบความสำเร็จอย่างมากมาย ปลูกพืชผลงอกงามได้ผลผลิตดี ทำให้ศาลนี้มีชื่อเสียงไปทั่วทุกแคว้น
...เศรษฐี ขุนนาง ก็สร้างศาลเชิญเทพเจ้าองค์นี้ไปบูชากันทุกๆบ้าน จนทราบถึงฮ่องเต้องค์หนึ่ง เมื่อท่านสถาปนาเทพเจ้าถู่ตี้กง ก็มีคนเคารพนับถือกันมาก
O O O O

...
“สิริมงคลจีนกับความเชื่อตามศาสตร์ฮวงจุ้ยของชาวไทยเชื้อสายจีนในชุมชนเยาวราช” สุภัทรา โยธินศิริกุล ได้ทำการศึกษาสะท้อนว่ามีการใช้อุปกรณ์ปรับฮวงจุ้ย รูปปั้น ภาพมงคล โคมแขวน โมบาย ป้ายอักษรมงคล วัตถุมงคลและการบูชาเทพเจ้า เพื่อความหมายด้านธุรกิจ การค้า และความร่ำรวย
ทำให้เกิดความเชื่อมั่นในการประกอบธุรกิจ การค้า ที่สำคัญเชื่อว่า...สิริมงคลจีนเหล่านั้นจะทำให้เกิด “กำไร” และ “โชคลาภ” ในการค้าขาย ทำธุรกิจให้... “เจริญรุ่งเรือง”
นับรวมไปถึงปกป้อง รักษา อำนวยพรให้ครอบครัว คนในชุมชน มีความสุข ปลอดภัย
ภายนอก...ในชุมชนนิยมแขวนกระจกยันต์แปดทิศและสิงห์คาบดาบ รวมถึงกระจกนูนเว้าเพื่อเน้นการปรับฮวงจุ้ย ป้องกัน สะท้อนพลังร้ายต่างๆ ตามทางแยก ทางสามแพร่ง หรือเหลี่ยมคมของตึก เสาไฟฟ้า
ยันต์แปดทิศ...แขวนแล้วเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรืองไม่มีที่สิ้นสุด มีอิทธิฤทธิ์สลายเคราะห์ร้ายให้กลายเป็นโชคลาภได้ ส่วนสิงห์คาบดาบนั้นใช้แก้เคล็ด สลายเคราะห์ได้อย่างเดียวเท่านั้น
นอกจากนี้แล้วยังมีการแปะ “ยันต์ไต้ฮงกง” หรือ “ยันต์ศาลเจ้าพ่อเสือ” ที่หน้าประตูบ้านร้านค้าเพื่อเป็นสิริมงคล กันสิ่งไม่ดี อันตรายต่างๆ อีกด้วยเช่นกัน
“สิงโตคู่” อีกรูปปั้นสัตว์ที่เป็นสื่อสัญลักษณ์แห่งพละ “กำลัง” และ “อำนาจ” ถูกวางไว้รอบตัวบ้าน เพื่อขับไล่วิญญาณชั่วร้าย อาจจะกล่าวได้ว่าการตั้งสิงโตคู่นี้เพื่อเป็นสิริมงคล ใช้สำหรับสลายเทพพิฆาตต่างๆ ช่วยคุ้มครองบ้านเรือน เสริมอำนาจ เพิ่มปราณหยางแก่บ้านเรือนและเจ้าบ้าน
ที่นิยมคือ “สิงโตหิน” และ “สิงโตทองคำ” สิงโตหินมักตั้งหน้าวัด ศาลเจ้า หน้าบริษัท สำนักงาน ส่วนสิงโตทองคำมักนิยมตั้งในบ้านหันไปทางประตูใหญ่ มุ่งหมายปัดเป่าเสนียดจัญไร สิ่งชั่วร้ายต่างๆ
...
“ศรัทธา”...นำมาซึ่งปาฏิหาริย์? เชื่อไม่เชื่อ โปรดอย่าได้...“ลบหลู่”.
รัก-ยม