ยังไม่แน่ชัด "เดลตาครอน" เป็นลูกผสมระหว่างเดลตากับโอมิครอน อาจเป็น 2 สายพันธุ์ในคนเดียวกัน พร้อมแจงกรณีพบโอมิครอนของไทยต่ำกว่าความเป็นจริง


วันที่ 9 มกราคม 2565 ศ.เกียรติคุณ ดร.วสันต์ จันทราทิตย์ หัวหน้าศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ให้สัมภาษณ์กรณีสื่อต่างประเทศรายงานทีมนักวิจัยในสาธารณรัฐไซปรัส พบเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์สายพันธุ์ใหม่เป็นการผสมผสานพันธุกรรมระหว่างสายพันธุ์เดลตากับโอมิครอน ตั้งชื่อว่า เดลตาครอน (Deltacron) พบแล้ว 25 รายว่า เท่าที่ติดตามในฐานข้อมูลกลางโควิดโลกหรือ GISAID ยังไม่พบรายงานดังกล่าว เพียงแต่เห็นข้อมูลส่งต่อในสื่อโซเชียลต่างๆ การซับมิทข้อมูลเข้า GISAID จะต้องเป็นข้อมูลที่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพและได้รับการยืนยัน จะมีหน้างานที่คอยควบคุมคุณภาพรหัสพันธุกรรมก่อนส่งเข้าไปในฐานข้อมูลกลาง

เชื่อว่าเร็วๆ นี้คงจะทราบแน่ชัดว่ามีการเกิดขึ้นของลูกผสมหรือไฮบริดระหว่างเดลตากับโอมิครอน หรือที่ระบุชื่อกันว่า เดลตาครอน หรือไม่ หากมีจริงจะถือเป็นตัวแรกของโลกที่เป็นลูกผสมระหว่างโคโรนาไวรัสด้วยกัน ที่ผ่านมาใน GISAID ที่มีข้อมูลซับมิทเข้ามากว่า 6 ล้านตัวอย่างก็ยังไม่เคยระบุมีลูกผสมระหว่างโคโรนาไวรัสด้วยกัน

ศ.เกียรติคุณ ดร.วสันต์ กล่าวว่า เท่าที่ติดตามข้อมูลผ่านสื่อต่างๆ ขณะนี้มีทั้งระบุว่าเป็นลูกผสมหรือบางส่วนระบุว่าเป็นเพียงการมี 2 สายพันธุ์ในคนเดียวกัน แต่ไม่ใช่ลูกผสม ซึ่งประเทศไทยก็เคยเกิดกรณีแคมป์คนที่พบคนหนึ่งมีทั้งสายพันธุ์อัลฟาและเดลตาในเวลาเดียวกัน เป็นไปได้แต่มีไม่มาก

ส่วนที่ระบุพบเดลตาครอนถึง 25 ตัวอย่างก็ยังน่าสงสัย เพราะการเกิดลูกผสมหากเกิดขึ้นคงเกิดได้ไม่มาก อย่างไรก็ตามต้องรอความชัดเจนอีกครั้ง ทั้งนี้เทคนิคการถอดรหัสพันธุกรรมไวรัสมีการถอดทั้งแบบสายสั้น ซึ่งสามารถถอดรหัสพันธุกรรมได้ประมาณ 300 ตำแหน่ง และแบบสายยาวสามารถถอดรหัสพันธุกรรมได้ถึง 2,000-3,000 ตำแหน่ง การถอดแบบสายสั้นอาจจะได้ข้อมูลไม่จำเพาะ ซึ่งบางครั้งตัวอย่างที่ส่งตรวจอาจจะมีการปนเปื้อนของเชื้อทั้ง 2 สายพันธุ์ ทำให้การวิเคราะห์ผิดพลาดได้ แต่หากเป็นการถอดสายยาวเช่นที่ศูนย์จีโนมฯ ก็ใช้วิธีนี้ จะสามารถแยกได้ว่าเป็นสายพันธุ์ใดที่ชัดเจน รวมถึงเป็นลูกผสมหรือไม่ หรือเกิดจากการปนเปื้อนในแล็บวิจัย

...

ด้าน นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ให้สัมภาษณ์ ว่า ขณะนี้ไทยยังไม่มีข้อมูล ขอเวลาตรวจสอบก่อน ว่า เป็นข่าว หรือรายงานอย่างเป็นทางการ ซึ่งกรมวิทย์ฯ มีการติดตามข้อมูลจากทั่วโลกอยู่ตลอดเวลา ขอให้ทุกคนใจเย็น ไม่อยากให้ตื่นตระหนกเกินไป

ส่วนกรณีมีนักวิชาการระบุว่า การรายงานสายพันธุ์โอมิครอน ของไทยต่ำกว่าความเป็นจริงนั้น เรื่องนี้ได้อธิบายไปหลายครั้งแล้วว่า สัดส่วนการรายงานเชื้อโอมิครอน มีทั้งสูงและต่ำกว่าความเป็นจริง เนื่องจากเราตรวจหาเชื้อจากผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศทุกคน ก็จะมีสัดส่วนที่ค่อนข้างสูง ส่วนผู้ติดเชื้อในประเทศไทย ไม่ได้ตรวจหาสายพันธุ์ทุกคน จะใช้วิธีการสุ่มตรวจ

ดังนั้นเราจะวางระบบการสุ่มตรวจ เพื่อที่จะดูสัดส่วนของการระบาดของสายพันธุ์ให้ชัดเจนขึ้น อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ใด แนวทางการป้องกันตัวเองก็เหมือนเดิมคือ สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ เว้นระยะห่าง.