เปิดตัวไปแล้วอย่างยิ่งใหญ่กับบริษัท เอฟจีพี (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่ง เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2564 ได้จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ ความร่วมมือพัฒนาและจำหน่ายสายพันธุ์กัญชง ณ โรงแรมหรรษา ราชดำริ กรุงเทพมหานคร ระหว่างบริษัท เอฟจีพี (ไทยแลนด์) จำกัด ร่วมกับ 14 บริษัทพันธมิตรแถวหน้าของวงการกัญชงไทย อาทิ

บริษัท ทีเอ็นอาร์ ไบโอไซเอินซ์ จำกัด (ในเครือบริษัท ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน)) (TNR)
บริษัท สยาม เฮอเบิล เทค จํากัด (ในเครือบริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน)) (DOD)
บริษัท อิโกรนิกซ์ จำกัด (Egronix)
บริษัท ลีน แอนด์ ยัง จำกัด

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันส่งเสริมการพัฒนาและผลิตเมล็ดพันธุ์กัญชงพันธุ์ FGP ในประเทศไทย เพื่อให้มีลักษณะเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในประเทศ ซึ่งเมล็ดพันธุ์นี้จะให้ปริมาณสารสำคัญในช่อดอกที่สูงอย่างโดดเด่น เช่นเดียวกับพันธุ์น้ำมัน โดยตั้งเป้าผลิตเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพสูงในราคาที่เหมาะสม ลดการพึ่งพาการนำเข้า

นอกจากนี้จะมีการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีและประสบการณ์ มีการอบรมและศึกษาดูงานด้านการผลิต วิจัย และการพัฒนาสายพันธุ์กัญชงร่วมกันอย่างใกล้ชิด

โดยนายสราญศิริ วงศ์ศิริ กรรมการผู้จัดการ บจก. อิโกรนิกซ์ กล่าวว่า "ปัจจุบันผู้ประกอบการกัญชงเกือบทั้งหมดเลือกใช้สายพันธุ์ของ FGP เพราะพิสูจน์โดยการปลูกจริงมาแล้วหลายต่อหลายรอบฤดู การมีส่วนร่วมในครั้งนี้จะทำให้บริษัทเข้าถึงเมล็ดพันธ์ุพรีเมียมที่ปลูกในไทยเป็นครั้งแรก โดยจะลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการและเกษตรกรได้มากกว่า 30%

โดยมีข้อมูลว่าปัจจุบัน Frontier Genetic Partners LLC ผู้ร่วมทุนซึ่งเป็นเจ้าของเทคโนโลยีและเจ้าของสิทธิ์ในเมล็ดพันธุ์ FGP ดังกล่าว ได้ส่งออกเมล็ดพันธุ์กัญชงทั้งพันธุ์ช่อดอก CBD และพันธุ์น้ำมันมายังประเทศไทยมากกว่า 1 ล้านเมล็ดแล้ว

ซึ่งปัจจุบันทาง บจก.อิโกรนิกซ์ ก็กำลังพัฒนาก่อสร้างโครงการปลูกช่อดอกกัญชงในระบบโรงเรือนในพื้นที่กว่า 15 ไร่ ในจังหวัดลำพูน กำลังการผลิตกว่า 21,000 กิโลกรัมช่อดอกต่อปี ซึ่งต้องใช้เมล็ดพันธุ์ FGP เกือบ 100,000 เมล็ดต่อปี

ความร่วมมือในครั้งนี้จะทำให้บริษัทเติมเต็มส่วนธุรกิจกัญชงต้นน้ำให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืน" นายสราญศิริ กล่าว

ด้าน ผศ.ดร. ตะวัน ฉัตรสูงเนิน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ทดสอบ วิจัยและพัฒนากัญชงอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่ กล่าวว่าศูนย์ฯ จะสนับสนุนความร่วมมือนี้ทุกมิติ เพื่อให้ภาคเอกชนได้เข้าถึงเมล็ดพันธุ์กัญชงที่มีคุณภาพสูง โดยจะร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับทาง เอฟจีพี (ไทยแลนด์)

ซึ่งจากที่ได้ศึกษาและทดลองมาระยะหนึ่ง มั่นใจว่าเมล็ดพันธุ์กัญชงของทางบริษัทฯ จะมีความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและลักษณะอากาศไทย ต้านทานโรคและแมลงศัตรูพืชแถบนี้ได้ดี ให้ผลผลิต (Yield) และให้ปริมาณสารสำคัญที่สูงกว่า

ที่สำคัญไม่ต้องนำเข้า ผลิตโดยคนไทยด้วยเทคโนโลยีจากบริษัทแม่ที่สหรัฐฯ บินมาถ่ายทอดให้ ซึ่งจะสร้างอาชีพให้แก่เกษตรกรอีกมากมาย … สอดรับกับนโยบายของรัฐ ช่วยสนับสนุนให้กัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจอย่างแท้จริงอีกหนึ่งแรง