เป็นที่รู้กันดีว่ารากพืชจะทำหน้าที่ดูดน้ำและแร่ธาตุจากดิน ลำเลียงไปยังส่วนต่างๆของต้นไม้ และรากยังช่วยรักษาสมดุลของต้นไม้ให้ยืนหยัดตรงโดยยึดลำต้นให้ติดกับพื้นดิน ส่วนอาหารที่พืชสร้างขึ้นในรูปแบบต่างๆ อย่างแป้ง หรือน้ำตาลกลูโคส ก็จะถูกเก็บตามส่วนต่างๆของพืชแตกต่างกันไป แต่ก็มีนักวิจัยมุ่งเน้นศึกษาระบบอันซับซ้อนของรากพืช ทำให้เห็นหนทางที่จะพัฒนาการจัดเก็บพลังงานอย่างยั่งยืน
เมื่อเร็วๆนี้ ทีมวิจัยจากห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีออร์แกนิก อิเล็กทรอนิกส์ แห่งมหาวิทยาลัยลินเชอปิง ในสวีเดน ได้แสดงให้เห็นว่ารากของพืชสามารถนำไฟฟ้าและสามารถกักเก็บพลังงานได้ เมื่อทำการทดลองกับต้นถั่วแขก (Phaseolus vulgaris) โดยให้ต้นถั่วแขกถูกรดน้ำด้วยสารละลายที่มีโอลิโกเมอร์ ซึ่งเป็นโมเลกุลประกอบด้วยสายโซ่ 3 ส่วนที่เรียกว่า ETE-S ก็พบว่าระบบรากที่สมบูรณ์สามารถทำงานเป็นเครือข่ายของตัวนำที่เข้าถึงได้ง่าย การทดลองพบว่ารากของต้นถั่วแขกยังคงนำไฟฟ้าเป็นเวลาอย่างน้อย 4 สัปดาห์ และมีค่าการนำไฟฟ้าอยู่ที่ประมาณ 10 ซีเมนต์ต่อเซนติเมตร (S/cm)
นักวิจัยเผยว่า ได้ตรวจสอบความเป็นไปได้ของการใช้รากเพื่อเก็บพลังงาน และสร้างตัวเก็บประจุยิ่งยวด (Supercapacitor) ซึ่งพบว่ารากได้ทำหน้าที่เป็นขั้วไฟฟ้าระหว่างการชาร์จและการคายประจุ ดังนั้น ตัวเก็บประจุยิ่งยวดที่มีโพลิเมอร์และเซลลูโลสเป็นตัวนำไฟฟ้า จึงจัดเป็นทางเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสำหรับการจัดเก็บพลังงานที่มีราคาย่อมเยาและยังปรับขนาดได้.