วันเสาร์สบายๆวันนี้เราไปคุยเรื่อง “ภาวะโลกร้อน” จากที่ประชุมว่าด้วย การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสมัยที่ 26 (COP26) ของ สหประชาชาติ ที่ เมืองกลาสโกว์ สกอตแลนด์ กันนะครับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็บินไปร่วมประชุมด้วย ได้กระทบไหล่ผู้นำโลกคนดังอย่าง โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บอร์ริส จอห์นสัน นายกฯอังกฤษ แองเจลา แมร์เคิล นายกฯเยอรมนี ฯลฯ

แม้ นายกฯไทย จะเปิ่นไปบ้าง เช่น ขึ้นเวทีไปทักทายเจ้าภาพแล้วไม่ลงจากเวที ยืนยิ้มถ่ายรูปจนเจ้าภาพนายกฯอังกฤษต้องเชิญลงจากเวที นายกฯเยอรมนียื่นหมัดมาทักทายแบบนิวนอร์มอล แต่นายกฯไทยไปจับมือแทน ก็ไม่เป็นไร เพราะห่างเวทีสากลไปเสียนาน

แต่ที่เป็นดราม่าก็คือ สปีชของนายกฯบนเวที COP26 ที่ไปลอกคำพูดของ บารัค โอบามา อดีตผู้นำสหรัฐฯในปี 2015 “We only get one planet. There is no Plan B” นายกฯไทยไปพูดว่า “เราทุกคนไม่มีแผนสองในเรื่องของการรักษาเยียวยาสภาพภูมิอากาศ เพราะเราจะไม่มีโลกที่สองซึ่งจะเป็นบ้านของพวกเราได้เหมือนโลกนี้อีกแล้ว” ก็ไม่เป็นโร

แต่เรื่องที่ผม เสียดายและไม่เข้าใจอย่างยิ่ง ทั้งที่ ไทยเป็นประเทศที่มีปัญหาเรื่องการตัดไม้ทำลายป่าอย่างรุนแรง จนกลายเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้โลกร้อนขึ้น แต่ พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯไทย กลับไม่ร่วมลงนามกับผู้นำอีก 105 ประเทศ ในที่ประชุม COP26 ใน “ข้อตกลงที่จะยุติการทำลายป่าไม้และฟื้นฟูดินเสื่อมสภาพภายใน ค.ศ.2030 (พ.ศ. 2573)” เพราะป่าไม้ที่ถูกตัดทำลายหรือถูกทำให้เสื่อมสภาพจะปล่อย “ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์” สู้ชั้นบรรยากาศของโลก คิดเป็นสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 11 ของการปล่อยคาร์บอนทั่วโลก

ผู้นำ 105 ประเทศ ที่ร่วมลงนามข้อตกลงยุติการตัดไม้ทำลายป่า มีพื้นที่ป่ารวมกันมากกว่าร้อยละ 85 ของพื้นที่ป่าทั่วโลก การไม่มีชื่อ ประเทศไทย และ นายกฯไทย พล.อ.ประยุทธ์ ร่วมลงนามในข้อตกลงสำคัญนี้ จึงเป็นเรื่องเสียหายอย่างยิ่ง ข้อตกลงนี้ได้จัดตั้ง กองทุนสาธารณะ 12,000 ล้านดอลลาร์ ราว 400,000 ล้านบาท และ การลงทุนจากภาคเอกชนอีก 7,200 ล้านดอลลาร์ ราว 240,000 ล้านบาท เพื่อใช้ คุ้มครองและฟื้นฟูป่าไม้ แต่กลับไม่มี “ประเทศไทย” ทั้งที่มีการตัดไม้ทำลายป่ามากที่สุดประเทศหนึ่งร่วมด้วย

...

ประเทศไทย ได้ชื่อว่ามีการตัดไม้ทำลายป่ามากที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง ข้อมูลจาก กรมป่าไม้ ระบุว่า ปี 2504 ไทยเคยมีพื้นที่ป่าไม้มากถึง 53.33% ของที่ดินทั้งประเทศ ปี 2516 ป่าถูกตัดจนลดเหลือ 138.56 ล้านไร่ คิดเป็น 43.21% จากการสำรวจล่าสุดปี 2563 ไทยเหลือป่าไม้เพียง102.35 ล้านไร่ 31.64% ของพื้นที่ประเทศ ทุกวันนี้ก็ยังมีการตัดไม้ทำลายป่าไม่หยุด

พล.อ.ประยุทธ์ โพสต์ลงเฟซบุ๊กคุยว่า ได้เข้าร่วม “ภารกิจเพื่อมวลมนุษยชาติ” ร่วมกับ ผู้นำจาก 197 ประเทศทั่วโลก และบอกว่า “โลกกำลังป่วย” นอกจากวิกฤติโควิดแล้ว “ภาวะโลกร้อน” เป็นอีกภัยเงียบ “ที่กำลังส่งเสียงคำรามดังขึ้นๆทุกวันจนเป็น Code Red ที่ส่งผลต่อความผิดปกติทางธรรมชาติที่เราเห็นได้ชัด” อ่านภาษาที่นายกฯเขียนแล้ว ไม่ใช่สำนวนภาษาไทยแน่นอน ไม่รู้คนเขียนเฟซบุ๊กให้นายกฯไปลอกและแปลมาจากไหน โดยเฉพาะประโยคที่ว่า เป็นอีกภัยเงียบที่กำลังส่งเสียงคำรามดังขึ้นๆทุกวันจนเป็น Code Red จะเหมือนกับสปีชที่ไปลอกต่อมาจาก บารัค โอบามา หรือไม่

นายกฯบอกว่า “ประเทศไทยเป็นประเทศที่จะได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อนมากที่สุดเป็นลำดับที่ 9 ของโลก ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีความเสี่ยงเรื่องน้ำท่วม ฝนแล้ง พายุแรง ที่ส่งผลต่อพืชผลทางการเกษตร และความเป็นอยู่ของคนไทยทุกคนด้วย ผมถือว่าการมาประชุม COP26 ครั้งนี้ เป็นภารกิจที่สำคัญเพื่อลูกหลานและอนาคตของประเทศไทย”

แล้วทำไม พล.อ.ประยุทธ์ จึงไม่เข้าร่วม “ข้อตกลงยุติการทำลายป่าและฟื้นฟูดินเสื่อมสภาพ” ซึ่งเป็นสาระสำคัญของการประชุม COP26 ร่วมกับผู้นำอีก 105 ประเทศ นี่หรือภารกิจสำคัญเพื่อลูกหลานและอนาคตประเทศไทย ช่วยตอบหน่อยเถอะ.

“ลม เปลี่ยนทิศ”