หลายคนถอดเครื่องแบบเก็บซากอดีตไว้กับตัวเอง เกษียณอายุราชการอย่างสบายใจ ไม่มีอะไรต้องติดค้าง แม้ตลอดชีวิตรับราชการกว่า 40 ปีเผชิญเรื่องราวเขม่าควันปืน กลิ่นคาวเลือด เสี่ยงคุก เสี่ยงตะรางมากมาย
มดงานนักสืบ คนหนึ่งภูมิใจที่มีส่วนร่วมคลี่คลายคดีใหญ่ ได้คิด ได้ทำ มีผู้บังคับบัญชาเป็น “ต้นแบบ” ตั้งแต่ พล.ต.ท.ธนู หอมหวล พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง พล.ต.ต.ปรีชา ธิมามนตรี พล.ต.ต.ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง พล.ต.ต.วีระศักดิ์ มีนะวานิชย์ พ.ต.อ.ปกรณ์ กิตติวัฒน์
ไล่มาถึง พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์
แม้กระทั่ง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข สมัยยังเป็น รอง ผบก.
ทุกคนเริ่มต้นจาก “ลูกศิษย์” ก่อนต่อยอดไปเป็น “อาจารย์” สะสมตำราวิชาสืบสวนนอกระบบที่หาไม่ได้ในปัจจุบัน
ตั้งใจทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง ไม่เคยทะเลาะกันเรื่องผลประโยชน์
“สำคัญสุดคือ ชั้นยศไม่เหมาะสำหรับนักสืบ” เจ้าตัวว่า เพราะทุกคนจะให้เกียรติกันแบบพี่น้อง ไม่ว่าสัญญาบัตร หรือชั้นประทวน รับฟังกันได้ กินข้าวหม้อเดียวกันได้ ลงแขกนั่งซัดก๋วยเตี๋ยวกันข้างทางกันบ่อยครั้ง
เป็นความผูกพันของนักสืบในสมัยก่อน
“พวกเราทำงานเพื่อแผ่นดิน” เขาย้ำ
ผิดกับปัจจุบัน นักสืบหน้าใหม่ บางคน “หน้าขาว” อยู่แต่ในห้องแอร์สั่งงานแบบงูๆปลาๆ เพราะไม่มีประสบการณ์เดินดิน ตากแดด แถมแสวงหาแต่ผลประโยชน์เข้ากระเป๋าตัวเอง
“ย้ายมาไม่เคยถามเซฟเฮาส์อยู่ไหน ถามหาแต่โพยลายแทงผู้ประกอบการธุรกิจสีเทา”
เขาเสียดายต้นตำรับฉบับตำราที่สร้างตำนานมายาวนาน.
...
สหบาท