ชุดตรวจเร็ว “โควิด-19” Antigen Test Kit หรือเรียกสั้นๆว่า “ATK” การซื้อมาตรวจเองต้องระวังผลตรวจที่อาจจะคลาดเคลื่อน เพราะถ้าทำไม่ถูกวิธี มีการปนเปื้อนผลที่ออกมาก็อาจจะผิดพลาด หรือ...ซ้ำร้ายเจอชุดตรวจปลอม ไม่ได้มาตรฐานขึ้นมา ผลที่ออกมาก็ไม่ชัวร์ 100 เปอร์เซ็นต์

สะท้อนความคืบหน้าการกระจายชุดตรวจ Antigen test kit (ATK) แบบ Self-test จำนวน 8.5 ล้านชุด สำหรับให้ประชาชนนำไปตรวจด้วยตัวเองที่บ้าน ภญ.ศิริรัตน์ ตันปิชาติ นายกสมาคมเภสัชกรรมชุมชนบอกว่า ในส่วนของช่องทางการกระจายผ่านร้านยานั้น จากการพูดคุยเบื้องต้นกับ สปสช.คือให้ผู้ประสงค์จะรับชุดตรวจ ATK ลงทะเบียนและทำแบบประเมินความเสี่ยงผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง

“ผู้รับสามารถเลือกร้านยาที่จะเข้าไปรับชุดตรวจได้ รวมทั้งอาจวอล์กอินเดินเข้ามาที่ร้านยา ให้ร้านยาประเมินความเสี่ยงและบันทึกข้อมูลเข้ามาในระบบแอปเป๋าตังเช่นกัน”

...

ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า โครงการนี้มีหลายภาคส่วนที่เข้ามากระจายชุดตรวจ ATK ซึ่งร้านยาก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่รู้ตอนนี้คือ สปสช.มีร้านยาที่ลงทะเบียนเป็นหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพประมาณ 1,000 ร้านทั่วประเทศ อยู่ใน กทม. 300 ร้าน คนที่ได้รับ ATK จะได้ไปคนละ 2 ชุดสำหรับตรวจครั้งแรก

และ...ตรวจซ้ำอีกครั้งเมื่อผ่านไป 5 วัน ย้ำว่า...คนที่จะรับชุดตรวจนั้นจะต้องเป็นกลุ่มเสี่ยง เช่น มีคนในที่ทำงานติดเชื้อ แต่ตัวเองยังมีอาการปกติไม่แน่ใจว่าจะได้รับเชื้อด้วยหรือไม่ แบบนี้ก็เข้าข่ายมารับ ATK ได้

เมื่อทราบผลตรวจแล้ว ผู้ทำการตรวจต้องส่งรูปหรือโทร.กลับมาแจ้งที่ร้านยาเพื่อรับคำแนะนำในการแปลผลการตรวจในกรณีที่ “ผลเป็นลบ” ...เภสัชกรจะแนะนำให้กักตัวอยู่บ้านให้ครบ 14 วัน แต่ถ้า “ผลเป็นบวก”...ก็จะแนะนำให้เข้าระบบการดูแลที่บ้านแบบ Home Isolation และถ้ามีอาการมากก็มีการพูดคุยกันว่าจะให้ร้านยาส่งยาฟาวิพิราเวียร์ไปให้ที่บ้าน อย่างไรก็ดี เรื่องการส่งยาฟาวิพิราเวียร์ต้องรอความชัดเจนอีกครั้ง

รศ.ดร.ภญ.จิราพร ลิ้มปานานนท์ นายกสภาเภสัชกรรม และกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เสริมว่า ร้านขายยาที่จะเป็นจุดกระจายชุดตรวจ ATK นั้นจะต้องเป็นร้านขายยาแผนปัจจุบัน (ข.ย.1) ที่มีเภสัชกรประจำตลอดเวลาทำการ และต้องเปิดทำการอย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อวัน

รวมไปถึงต้องขึ้นทะเบียนกับ สปสช.ด้วย แน่นอนว่า...เมื่อก่อนถ้าในครอบครัวมีผู้ติดเชื้อ ทุกคนจะวุ่นวายในการหาที่ตรวจ RT-PCR และต้องใช้เวลานานกว่าจะรู้ผล การใช้ชุดตรวจ ATK จะทำให้รู้ผลไวขึ้น รวมไปถึงสามารถค้นหาผู้ติดเชื้อได้รวดเร็วขึ้น...เมื่อทำการตรวจแล้ว ก็จะบันทึกผ่านแอปเป๋าตัง

นั่นแปลว่าจะทำให้หา “ผู้ติดเชื้อ” ได้ เพื่อแยกออกมาจากสังคม ขณะเดียวกันก็ลดโอกาสในการพัฒนาเป็นกลุ่มสีเหลือง-แดงของผู้ป่วยจากการรอเตียง ซึ่งเราก็ส่งยาไปให้ได้เลย

“เราจะได้ใช้วิชาชีพเภสัชกรรมในการให้บริการ เพื่อช่วยประเทศในการแก้ปัญหาโรคระบาด เพราะเรามีความรู้เรื่องยาเราก็สามารถให้คำแนะนำการใช้ยา...ชุดตรวจที่ถูกต้อง เหมาะสม ทำให้ระบบเดินต่อไปได้ เพราะตรวจได้เร็วก็สามารถที่จะควบคุมการกระจายของโรคได้” รศ.ดร.ภญ.จิราพร ว่า

...

นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข บอกว่า ก่อนหน้านี้ “ไทย” ใช้การตรวจแบบ “RT–PCR” ซึ่งมีความเที่ยงตรงสูงเพราะขณะนั้นจำนวนผู้ติดเชื้อยังไม่มากและห้องแล็บยังสามารถรองรับการตรวจได้ แต่ปัจจุบันสถานการณ์เปลี่ยนไป จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงถึงหลัก 1-2 หมื่นต่อวัน

การทำ RT-PCR จึงมีข้อจำกัด...“คนไข้ต้องรอนานและทำให้การป้องกันควบคุมโรคทำได้ล่าช้า เป็นที่มาของการนำ ATK ทั้งแบบใช้โดยบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข และแบบประชาชนตรวจด้วยตนเองมาใช้”

อย่างไรก็ดี การตรวจด้วย ATK จะมีผลบวกปลอม (false positive) ประมาณ 3-5% เพื่อไม่ให้คนที่ตรวจได้ผลบวกปลอมแล้วต้องไปอยู่รวมกับผู้ป่วยจริงจนทำให้กลายเป็นติดเชื้อไปด้วย จึงมีแนวปฏิบัติก่อนที่จะส่งเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาล รวมถึง Community Isolation หรือ...การดูแลผู้ติดเชื้อโควิดในระบบชุมชน

คือ...ต้องมีการตรวจยืนยันด้วย RT–PCR ซ้ำอีกครั้ง

แต่ในส่วนของผู้ที่ดูแลแบบ Home Isolation หรือ...การดูแลผู้ติดเชื้อโควิดที่บ้าน ไม่จำเป็นต้องตรวจยืนยันเพราะกักตัวที่บ้านไม่ได้สัมผัสกับคนอื่นอยู่แล้ว

...

ขณะเดียวกัน สธ.กำลังจะทำ Fast Track RT-PCR หรือ “ช่องทางด่วนการตรวจโควิดแบบ RT–PCR” สำหรับคนที่อยู่ Home Isolation แล้วมีอาการมากขึ้นจำเป็นต้องเข้าโรงพยาบาล เพราะหากต้องทำ RT-PCR แล้วไม่มี Fast Track ให้...คนไข้ก็จะมีอาการรุนแรงอยู่ที่บ้าน

“การทำ Home Isolation ที่จะประสบความสำเร็จคือถ้าผู้ป่วยอาการรุนแรงขึ้น ต้องมี Fast Track พาเขาเข้าโรงพยาบาลได้ ไม่อย่างนันความน่าเชื่อถือของ Home Isolation จะไม่มี”

ประเด็นสำคัญที่เป็นหัวใจหลักในการใช้ชุดตรวจเร็ว “ATK” ก็คือการหา “ผู้ติดเชื้อ” เพื่อแยกออกมาจากสังคม นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มองว่าเมื่อถึงจุดๆหนึ่งต้องรบกวนให้ประชาชนตรวจด้วยตัวเอง...

ตัวเลขผู้ติดเชื้อประมาณวันละ 1 หมื่นราย 1 เดือนก็ประมาณ 3 แสนราย ผู้ติดเชื้อ 1 รายมีผู้สัมผัสใกล้ชิดที่ต้องรับการตรวจประมาณ 10 ราย หรือ 3-4 ล้านราย ทาง สปสช.ได้จัดงบประมาณจัดหาชุดตรวจ ATK โดยเผื่อกรณีที่ผลเป็นลบ ต้องตรวจซ้ำ และ...สรุปตัวเลขออกมาที่ 8.5 ล้านชุด

...

หลังจากที่องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ลงนามจัดซื้อ ขณะนี้ทางคณะทำงานวางแผนการกระจาย ATK ของ สปสช. ซึ่งมีรองปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน ได้วางแผนเร่งกระจายชุดตรวจ เน้นที่กลุ่มเสี่ยง อาทิ ผู้ที่อยู่ในพื้นที่สีแดง ในครอบครัว...ชุมชนมีผู้ติดเชื้อ เพื่อให้ตรวจหาเชื้อโควิดด้วยตัวเอง

โดยจะเริ่มแจกให้ประชาชนในช่วงกลางเดือนกันยายนนี้ในวันที่ 16 ก.ย.2564 เป็นต้นไป กระจายผ่านหน่วยบริการที่อยู่ในระบบหลักประกันสุขภาพใน 2 รูปแบบ คือ...แจกให้ชุมชนแออัด รวมทั้งกระจายไปตามตลาดต่างๆ ผ่านทางผู้นำชุมชน...ผู้ประสานงาน อาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) และ อสม.

ตัวแทนเหล่านี้จะดำเนินการรับชุดตรวจกระจายให้กลุ่มเป้าหมายโดยที่ประชาชนไม่ต้องเดินทางมารับที่หน่วยบริการ ใน กทม.ลงทะเบียนรับ ATK กับศูนย์บริการสาธารณสุข (ศบส.) ส่วนต่างจังหวัดลงทะเบียนรับ ATK กับหน่วยบริการในพื้นที่ เช่น รพ.สต. หรือ รพ.ใกล้ชุมชน

กลุ่มเป้าหมายคือ...ผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป ผู้ป่วยติดเตียงผู้พิการ และผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง 7 โรค (ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิด)...ผู้ที่สงสัยว่ามีอาการติดเชื้อ มีไข้ ไอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส หายใจหอบ หายใจลำบาก...ผู้ที่อยู่ร่วมบ้านกับผู้ติดเชื้อโควิด...ผู้ที่ทำงานประสานงานในชุมชน

แบบที่สอง...แจกที่หน่วยบริการ ได้แก่ ศูนย์บริการสาธารณสุข (ศบส.) ในพื้นที่ กทม. โรงพยาบาล รพ.สต.ทุกแห่ง รวมถึงคลินิก ร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการ ในพื้นที่สีแดงเพื่อตรวจกลุ่มที่มีความเสี่ยง

กรณีไม่มีมือถือสมาร์ทโฟน สามารถไปขอรับที่ ศบส. รพ. หรือ รพ.สต.ใกล้บ้าน ซึ่งจะเป็นผู้ดำเนินการให้โดยใช้บัตรประชาชนสมาร์ท การ์ด กรณีไปรับที่คลินิกและร้านขายยานั้นเฉพาะผู้ที่มีมือถือสมาร์ทโฟนเท่านั้น หากมีปัญหาในการรับโทร.ถามสายด่วน สปสช.1330 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือแอดไลน์ @nhso

ร่วมด้วยช่วยกันฝ่าวิกฤติการแพร่ระบาด “โควิด-19” ไปด้วยกัน ...คนไทยไม่ทิ้งกัน.