เมื่อวันที่ 2 ก.ย. ดร.อำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมออนไลน์ร่วมกับคณะอนุกรรมการสภาการศึกษา ด้านการปฏิรูปการศึกษาและการเรียนรู้โดยการพลิกโฉมด้วยระบบดิจิทัล ว่า ที่ประชุมได้พูดถึงข้อเสนอในการพัฒนา Big data ด้านการศึกษา เพื่อเสนอต่อ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ เนื่องจากสิ่งจำเป็นเร่งด่วนขณะนี้คือการนำ Big data มาใช้กับวงการศึกษา โดยรูปแบบที่นำเสนอก็คือรูปแบบที่ได้มีการศึกษามาแล้วจากผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์เรื่อง Big data ที่ได้ทำการศึกษา เพื่อนำมาเป็นต้นแบบ โดยจะนำมาเชื่อมโยงกับศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.ศธ.)

เลขาธิการสภาการศึกษา กล่าวอีกว่า หลักๆ คือต้องการรายงานความก้าวหน้าการพัฒนา Big data ของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้ รมว.ศึกษาธิการ รับทราบ เนื่องจากเป็นเรื่องที่ น.ส.ตรีนุชให้ความสำคัญ เพราะเป็นหนึ่งในวาระเร่งด่วน (Quick Win) ที่ต้องการให้มีการจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบและไม่ซ้ำซ้อน เพื่อให้ได้ข้อมูลภาพรวมการศึกษาของประเทศและสามารถนำไปใช้ได้จริง โดยได้มอบหมายให้ตนเป็นประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนเรื่อง Big data ของ ศธ. ดังนั้น จึงได้มีการนำส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมาเชื่อมโยงกัน ทั้งนโยบายของ รมว.ศธ. ข้อเสนอของคณะทำงานของสภาการศึกษา รวมถึงเชื่อมโยงไปที่ศูนย์เทคโนโลยีฯ เพื่อขับเคลื่อนไปสู่การปฏิบัติต่อไป

“ผมคิดว่าการขับเคลื่อนการปฏิรูปการเรียนรู้ด้วยระบบดิจิทัล เราเดินมาถูกทางแล้ว และจากที่มีการจัดการประชุมวิชาการทางการศึกษาระดับชาติ ครั้งที่ 16 เมื่อวันที่ 26-27 ส.ค.ที่ผ่านมา ก็พบว่า วันแรกมีผู้เข้าร่วมมากถึง 2 แสนกว่าคน และวันที่สองมีผู้เข้าร่วมกว่า 1 แสนคน จากตัวเลขดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก โดยผมมองว่าเรื่องนี้อาจยังไม่ใช่บทสรุปที่ดีที่สุด แต่ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการขับเคลื่อนการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลกับการศึกษา เพราะฉะนั้นเรื่องของ Big data จึงเป็นโจทย์ใหญ่ที่สำคัญสำหรับการขับเคลื่อนการปฏิรูปการเรียนรู้ด้วยระบบดิจิทัล” ดร.อำนาจกล่าวและว่า นอกจากนี้ตนยังได้แจ้งให้ที่ประชุมได้รับทราบถึงความคืบหน้าการจัดทำร่างพระราชกฤษฎีกาสถาบันเทคโนโลยีดิจิทัลแพลตฟอร์มเพื่อการศึกษา พ.ศ. ...ว่า สัปดาห์หน้าจะมีการประชุมคณะกรรมการกฎหมายระดับรอง ซึ่งจะพิจารณาประเด็นที่ปรับปรุงอีกครั้ง จากนั้นจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาต่อไป.

...