นางสุจิตรา พิทยานรเศรษฐ์ อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า การสนับสนุนการจัดการศพผู้สูงอายุตามประเพณีตาม พ.ร.บ.ผู้สูงอายุ พ.ศ.2546 มาตรา 11 ซึ่งตามประกาศในราชกิจจานุเบกษาวันที่ 19 พ.ค.2563 ได้มีการปรับเพิ่มการช่วยเหลือเป็นรายละ 3,000 บาท
จากเดิมที่สนับสนุนรายละ 2,000 บาท พร้อมทั้งขยายระยะเวลาการยื่นขอรับสิทธิ์จาก 1 เดือน เป็น 6 เดือนนับตั้งแต่วันที่ออกใบมรณบัตร โดยผู้สูงอายุที่เสียชีวิตที่เข้าเกณฑ์คุณสมบัติ จะต้องมีสัญชาติไทยอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป มีฐานะยากจนตามคุณสมบัติบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวมทั้งผู้สูงอายุที่อยู่ในศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ สถานสงเคราะห์ สถานดูแล สถานคุ้มครอง หรือสถานใดๆของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สามารถยื่นแจ้งขอรับสิทธิ์ โดยกรุงเทพมหานครยื่นผ่านสำนักงานเขต ส่วนภูมิภาคผ่านพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) ที่ว่าการอำเภอ สำนักงานเทศบาล ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)
อธิบดี ผส.กล่าวด้วยว่า เนื่องจากปีที่ผ่านมาแต่ละพื้นที่มีการยื่นเรื่องเพื่อขอรับสิทธิ์เข้ามาเป็นจำนวนมาก ประกอบกับการยืดระยะเวลาแจ้งขอรับการสนับสนุน ทำให้ผู้มีสิทธิ์เข้ามายื่นเรื่องจำนวนมากขึ้น ขณะที่การจัดทำงบประมาณปี 2564 ไม่ได้จัดเตรียมรองรับที่เพียงพอ ทำให้ปีที่ผ่านมาต้องมีการเสนอของบกลางจากรัฐบาลถึง 2 รอบเพื่อนำมาเบิกจ่าย แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ทำให้ยังมีผู้ตกค้างจำนวนมาก ซึ่งรวมยอดสะสมผู้มีสิทธิ์ที่ยื่นเรื่องเข้ามายังไม่ได้เงินสนับสนุนจำนวน 3-4 หมื่นราย ทั้งนี้ ผส.ได้มีการขยายวงเงินงบประมาณประจำปี 2565 เพิ่มเติมเพื่อนำมาเบิกจ่ายให้กับกลุ่มผู้ที่ตกค้างเหล่านี้แล้ว ขอให้มั่นใจว่าทุกรายจะได้รับเงินสนับสนุนแน่นอน นอกจากนี้ เข้าใจว่ายังมีประชาชนบางส่วนอาจจะยังไม่ทราบถึงสิทธิ์โครงการสนับสนุนการจัดการศพผู้สูงอายุ ผส.ได้พยายามประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้รับทราบอย่างทั่วถึง มีการจัดทำคู่มือการดำเนินการโครงการแจ้งผ่านไปยังหน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องให้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบต่อเนื่องรวมถึงให้ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ 12 ศูนย์ทั่วประเทศ และ พมจ.ช่วยประชาสัมพันธ์ให้ผู้มีสิทธิ์ได้เข้าถึงโครงการ.
...