สธ.ยัน กระจายวัคซีนไฟเซอร์ ไป รพ.77 จังหวัด ฉีดบุคลากรด่านหน้า แล้ว 4.6 หมื่นคน ย้ำ กลุ่มผู้สูงอายุ-7 โรคเสี่ยง-หญิงตั้งครรภ์ ฉีดวัคซีน ลดป่วย เสียชีวิตได้ ส่วน "ไฟเซอร์" สูญหายที่ จ.ตาก เป็นข่าวปลอม-ส.ค.ไทยได้วัคซีน 10 ล้านโดส ตามแผน
วันที่ 7 ส.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค และ นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ประเด็น สถานการณ์วัคซีนโควิด 19 กับสถานการณ์วัคซีนโควิด-19
นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 อยู่ในช่วงขาขึ้น โดยที่สหรัฐอเมริกา ตอนนี้ยังมีผู้ป่วยกับผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก และในแถบยุโรปก็มีผู้ก็เสียชีวิตและติดเชื้อเป็นจำนวนมาก หากเปรียบเทียบรอบบ้านเรา อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ก็มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นจำนวนมากเช่นกัน
ทั้งนี้หากเปรียบเทียบจำนวนติดเชื้อโควิด-19 สหรัฐอเมริกามากกว่าไทยเรา 10 เท่า ดังนั้นในช่วง 2-3 สัปดาห์ จากนี้ไปมีความจำเป็นที่เราต้องช่วยกันลดการติดเชื้อ ที่สหรัฐอเมริกาพบติดเชื้อสายพันธุ์เดลตา มากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนในแถบยุโรปแทรนด์ก็ขาขึ้นเช่นกัน ส่วนวัคซีนที่ฉีดไปอเมริกา ครอบคลุมกว่า 50%

...
วันนี้ไทยเรามีสัญญาณที่ดีอยู่นะครับ มีตัวเลขหายป่วย กว่า 2.1 หมื่นราย หากสามารถหมุนเตียงผู้ป่วยได้เร็วขึ้นแบบนี้ เราก็สามารถรับรักษาผู้ป่วยได้มากขึ้นที่กลับบ้านวันนี้ ผู้รักษาโดยรวมกว่า 2.3 แสนราย ยอดผู้เสียชีวิต 212 ราย
ส่วนกรณี ไปตรวจ ATK พื้นที่ กทม.ช่วงนี้ กทม.อยู่ในแนวโน้มคงตัว เฉลี่ยตรวจ 100 คน ผลบวก 10 คน หากสถานการณ์เป็นเช่นนี้ ก็จะมีแนวโน้มที่ดีมากขึ้น โดยเชื่อว่าผู้ติดเชื้อจะค่อยๆ ลดลง โดยผู้เสียชีวิตในวันนี้ ที่มีมีจำนวนมาก 212 รายนั้น ส่วนใหญ่อยู่ในกทม. 99 ราย

ยืนยัน การฉีดวัควีนป้องกันโควิด-19 จะช่วยลดอาการป่วยและเสียชีวิตได้ อย่างชัดเจน โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่ม 7 โรคเสี่ยง และกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ คือ กลุ่มพวกนี้ หากได้รับการฉีดวัคซีน จะลดการเสียชีวิตลงได้มาก ดังนั้นขอพี่น้องประชาชน พาญาติผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ และผู้อยู่ในกลุ่ม 7 โรคเสี่ยง ต้องให้ฉีดวัคซีนให้มากที่สุด จะลดอาการป่วย และการเสียชีวิตลงได้อย่างแน่นอน

ตัวเลขคาดการณ์สถานการณ์โควิด-19 โดยเส้นสีน้ำเงินลดได้ 20% เส้นสีเขียว ลดได้ 25% เส้นสีส้มคือเป็นที่เป็นจริง จะเห็นว่าประสิทธิภาพที่รัฐออกมาตรการทำมา ยังใกล้เคียงลด 20% ดังนั้นเราต้องปรับว่า จะทำอย่างไรให้ลดจำนวนติดเชื้อให้มากที่สุดที่ 25% เราจึงต้องช่วยกันหาวิธี ถามว่าทำอย่างไรถึงลดได้ 1.ต้องงดรับเชื้อโควิด-19 นอกบ้าน ทำอย่างไรก็ได้ ที่ไม่ต้องออกนอกบ้านไปรับเชื้อ ออกไปเฉพาะที่จำเป็นที่สุดเท่านั้น อย่างไปซื้ออาหาร ไปพบแพทย์ และเมื่อออกไปก็ต้องมีมาตรการป้องกันตัวเองให้มากท่ีสุด ต้องสวมแมสก์ ตลอดเวลา การเดินทางต้องลดความเเสี่ยงให้มากที่สุด 2.เมื่อกลับมาถึงบ้านต้องงดความเสี่ยงแพร่เชื้อกันในครอบครัว สวมแมสก์ตลอดเวลา ไม่ทำกิจกรรมร่วมกัน งดทานอาหารร่วมกัน และ 3. เมื่อกลับมาถึงบ้านแล้ว ให้รีบตรวจ ATK แม้ไม่มีอาการ ส่วนหากพบว่ามีอาการ ให้รีบติดต่อเพื่อไปทำการเข้าระบบรักษา
นพ.จักรรัฐ ยังกล่าวถึงกรณี วัคซีนไฟเซอร์ที่ได้มาเมื่อ 30 ก.ค. คือไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส ของที่สหรัฐบริจาคมา เป็นอย่างไรบ้าง เมื่อได้มา ก็ยังเก็บในภาวะแช่แข็ง โดยมีการกระจายวัคซีน 4-6 ส.ค. ที่ผ่านมา ไปยัง รพ.ขนาดใหญ่ จำนวน 170 รพ.แล้ว โดย รพ.ได้รับวัคซีนและเริ่มฉีดแล้วด้วย ทั้งนี้การกระจายวัคซีนรอบแรก ส่งไปแล้วกว่า 4 แสนโดส เพื่อฉีดบุคลากรการแพทย์ด่านหน้า โดยมีการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ไปแล้ว จำนวน 4.6 หมื่นคน วันนี้ก็จะฉีดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 1 ขวด ฉีดได้ 6 คน ขั้นตอนการส่ง การเตรียม มีการผสมน้ำเกลือเข้าไปด้วย 1.8 ซีซี ขณะผู้ที่ฉีดวัคซีนไปแล้ว ยังไม่พบบุคลาการการแพทย์คนใด มีอาการที่ไม่พึงประสงค์ที่รุนแรง

...
"อย่างไรก็ตาม ขอยืนยัน กรณีมีข่าววัคซีนไฟเซอร์สูญหายไปในต่างจังหวัด (จ.ตาก) ว่า ไม่เป็นความจริงเป็นข่าวปลอม ทั้งนี้ วัคซีนไฟเซอร์ ถูกจัดส่งไปเป็นที่เรียบร้อยดี แล้ววันนี้จะเริ่มทำการฉีดให้กับบุคลาการการแพทย์ ที่ รพ.จ.ตาก ทั้งนี้ การฉีดวัควีนเป็นไปตามแผน และในเดือน ส.ค. ประเทศไทย จะมีวัคซีน ป้องกันโควิด-19 จำนวน 10 ล้านโดส ซึ่งเป็นไปตามแผน" นพ.จักรรัฐ กล่าว...