กรณีเจ้าหน้าที่กรมการแพทย์จับทุจริตผู้ที่เข้ามารับบริการฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ หลังพบว่ามีกลุ่มคนร้ายแฮ็กข้อมูลเครือข่ายมือถือจองคิวฉีดวัคซีนศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ และเข้าร่วมลงทะเบียนบุคคลให้เข้ามารับวัคซีน แล้วนำโควตาไปขายสิทธิ
ไม่สมควรเป็นเรื่องเกิดขึ้น
คนที่สมัครรับการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามระบบหรือกลุ่มวอล์กอิน กว่าจะได้ฉีดวัคซีนไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ทุกคนต่างเฝ้าลงทะเบียน และรอคิวที่รัฐบาลฉีดวัคซีนให้ฟรีตามสิทธิของประชาชน
แต่กลุ่มมิจฉาชีพใช้ความรู้ในทางที่ผิด แฮ็กข้อมูลสิทธิคนอื่น นำเอาไปขาย ทำมาหากินบนความเป็นความตายของคนอื่น ก่อนที่ความจะมาแตกเพราะเจ้าหน้าที่กรมการแพทย์สงสัยกลุ่มผู้ที่เข้ามาฉีดวัคซีน
แจ้งเรื่องให้ กระทรวงคมนาคม และ กระทรวงสาธารณสุข ก่อนนำประชาชนที่ไปซื้อสิทธิมาสอบถามความเป็นมาทราบว่าแก๊งนี้ทำมาแล้ว 3 วัน นำข้อมูลค่ายมือถือมาขายต่อรายละ 1-2 พันบาท วันละ 1,500 คน
ก่อนที่รัฐบาลจะมอบหมายตำรวจเร่งจัดการ สืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก. ไปดำเนินการมี พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ ผบก.รฟ. เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ดึงเอาทีมสืบสวนและสอบสวนของ บก.ป. บก.ปอท.และ บช.น. มาเป็นคณะทำงาน ทำการสืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดให้ได้โดยเร็ว
ขณะนี้มีการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องหลายปาก โดยเฉพาะพนักงานค่ายมือถือที่มีส่วนเชื่อมโยงระบบข้อมูลการจองสิทธิมาฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19
ประชาชนคาดหวังว่าตำรวจจะจับกุมแก๊งเหล่านี้ให้ได้และขยายผลดำเนินคดีทุกราย หากปล่อยไว้นานจะไปก่อความเดือดร้อน ไปแฮ็กหรือเชื่อมโยงข้อมูลจุดบริการฉีดวัคซีนอื่นๆ นำไปขายเป็นโควตาได้
...
ประชาชนทุกข์ยาก ลำบากกับการแพร่ระบาดหนักของเชื้อไวรัสโควิด-19
กว่าจะได้จอง ได้ฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสร้ายแรง ซึ่งเป็นความหวังเดียวของความอยู่รอดของชีวิตพี่น้องคนไทยในสถานการณ์แบบนี้
กลับมาเจอคนฉกฉวยประโยชน์
เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลพอสมควร เตรียมกระชากหน้ากากแก๊งมิจฉาชีพที่หากินบนความเดือดร้อนของคนอื่นมาลงโทษตามกฎหมาย น่าเชื่อว่าเป็น “คนใน” มีส่วนเกี่ยวข้องการโอนเงิน และหลักฐานทางคอมพิวเตอร์
การแฮ็กข้อมูลฉีดวัคซีนโควิด ที่ตำรวจกำลังตามสืบสวนจับกุม ไม่ปล่อยให้คนชั่วๆไปทำผิดที่อื่นอีก
ไม่ต่างกับ “ซ้ำเติม” คนที่รอฉีดวัคซีน.
“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th