เตือน อย่าหลงเชื่อ หลอกขายยาฟาวิพิราเวียร์ในเน็ต ชี้เป็นยาที่ใช้เฉพาะในสถานพยาบาล และจ่ายยาโดยแพทย์เท่านั้น ขณะที่เวชภัณฑ์สำรองคงคลัง ส่วนใหญ่ยังเหลือในระดับสูง

วันที่ 2 ส.ค.64 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีโลกโซเชียลมีการเผยแพร่ว่า ขณะได้เกิดกรณีการหลอกลวงขายยาฟาวิพิราเวียร์ ซึ่งเป็นยาต้านไวรัสโควิด-19 ผ่านช่องทางต่างๆ ว่า ขอให้ประชาชนทุกท่านระมัดระวัง อย่าหลงเชื่อไปซื้อมารับประทานเอง เพราะปัจจุบันยาฟาวิพิราเวียร์เป็นยาที่ใช้เฉพาะในสถานพยาบาลเท่านั้น ไม่มีการวางขายตามร้านขายยาหรือท้องตลาดทั่วไป เนื่องจากการให้ยาผู้ป่วยนั้นจะต้องอยู่ภายใต้การวินิจฉัยและคำสั่งของแพทย์ ที่จะต้องพิจารณาจากระดับอาการ น้ำหนักตัว หรือโรคประจำตัวของผู้ป่วย เพื่อป้องกันกรณีการใช้ยาเกินจำเป็น และเกิดปัญหาไวรัสดื้อยาในผู้ป่วย

"ส่วนผู้ที่กำลังหลอกลวงประชาชนขอให้หยุดการกระทำ ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ หากพบการกระทำผิดจะถูกดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด เพราะถือเป็นการกระทำผิดในขณะที่ประเทศอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน"

ปัจจุบันรัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการจัดหายาฟาวิพิราเวียร์ให้เพียงพอ ทั้งการนำเข้าจากต่างประเทศ และการผลิตเองในประเทศ ที่ขณะนี้องค์การเภสัชกรรม (อภ.) เริ่มผลิตได้จะทยอยส่งมอบตั้งแต่เดือน ส.ค.นี้เป็นต้นไป มีศักยภาพการผลิตอยู่เดือนละ 2-4 ล้านเม็ด

โดยปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการจ่ายให้ผู้ป่วยโควิด-19 ที่ทำ Home Isolation ซึ่งลงทะเบียนผ่าน 1330 กด 14 โดยพิจารณาให้ยาฟ้าทะลายโจร หรือ ยาฟาวิพิราเวียร์ตามระดับอาการด้วยแล้ว

ในส่วนของเวชภัณฑ์ป้องกันตนเองสำหรับเจ้าหน้าที่ ขณะนี้มีอัตราการสำรองคงคลังส่วนใหญ่ยังอยู่ในระดับสูง เช่น หน้ากาก N95 มีสำรองทั้งคลังส่วนกลางและคลังภูมิภาค อัตราสำรองคงคลัง 9 เดือน ชุด PPE แบบ Coverall&Grown อัตราคงคลัง 3 เดือน ถุงคลุมรองเท้า (Shoe Cover) อัตราสำรองคงคลัง 10 เดือน หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ (Surgical mask) มีสำรองในคลังทั่วประเทศ อัตราสำรองคงคลัง 12 เดือน ส่วนใดที่สำรองคงคลังลดลง กระทรวงสาธารณสุขก็มีการจัดหาให้เพียงพอ.

...