สุดอาลัย "พยาบาลวิชาชีพ" รพ.สมุทรสาคร เสียชีวิตจาก "โควิด-19" หลังรู้ผลว่าติดเชื้อเพียง 7 วัน ขณะที่บรรยากาศงานศพเป็นไปด้วยความโศกเศร้า
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 2 ส.ค. 2564 นายแพทย์อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร เปิดเผยกรณี น.ส.อุไรวรรณ จันทรปลิน อายุ 45 ปี พยาบาลวิชาชีพ ปฏิบัติงานอยู่ที่หอผู้ป่วยอายุรกรรมชาย 1 โรงพยาบาลสมุทรสาคร เสียชีวิต โดยน้องเริ่มมีอาการป่วยประมาณเมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2564 และ Swab วันที่ 26 ก.ค. พอผลพบว่าติดเชื้อ ก็มานอนที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค. และมีอาการเหนื่อยมากๆ ต้องให้ออกซิเจน และสุดท้ายหมอก็นำเข้าอยู่ที่ห้องไอซียู
กระทั่งประมาณวันที่ 30 หรือ 31 ก.ค. สามารถติดต่อส่งตัวไปที่โรงพยาบาลราชวิถีได้สำเร็จ ทางท่านอธิบดีกรมการแพทย์ช่วยรับตัวไปดูแลที่โรงพยาบาลราชวิถี และเสียชีวิตลงอย่างสงบเมื่อเวลา 21.00 น. ของวันที่ 1 ส.ค. 2564
ทั้งนี้ น.ส.อุไรวรรณ ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนซิโนแวคเข็มแรกเมื่อวันที่ 20 ก.ค. เนื่องจากช่วงแรกกลัวเรื่องผลข้างเคียงก็เลยไม่กล้าฉีดในรอบแรก พอสถานการณ์เริ่มรุนแรงขึ้นก็เลยฉีด จากนั้นก็จะฉีดแอสตราเซเนกาต่อ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ดีขึ้น
น.ส.อุไรวรรณ ถือเป็นบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลที่เสียชีวิตจากโควิด-19 ช่วงนี้เรามีบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลสมุทรสาครเริ่มติดเชื้อจำนวนมากขึ้น ตั้งแต่ 15 มิ.ย. จนถึงปัจจุบันประมาณ 200 กว่าราย ส่วนใหญ่ไม่มีอาการที่รุนแรง มีอาการปอดอักแสบ 4-5 ราย แต่มี น.ส.อุไรวรรณ ที่มีอาการรุนแรงกว่าเพื่อน และต้องขอบคุณ น.ส.อุไรวรรณ ที่มีบุคลิกอัธยาศัยดีมาก เจอใครก็ยิ้มแย้มแจ่มใส ตั้งใจทำงาน เพื่อนร่วมงานทุกคนรัก คิดว่าสิ่งที่น้องๆ ทำให้พวกเรา จะเป็นสิ่งที่พวกเราจะจำไว้ตลอด ขอบคุณแทนคนสมุทรสาครด้วย
...

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า บรรยากาศภายในงานณาปนกิจศพ น.ส.อุไรวรรณ จันทรปลิน เป็นไปด้วยความโศกเศร้าของญาติพี่น้อง เนื่องจากครอบครัวผู้เสียชีวิตที่อยู่กันมีจำนวน 9 คน และมีผู้ติดเชื้อโควิด 7 คน ซึ่งขณะนี้กำลังรักษาตัวอยู่ โดยทางด้านเพื่อนพยาบาลรุ่น 6 วิทยาลัยพยาบาลพระจอมเก้าเพชรบุรี กล่าวว่า พวกตนรู้สึกเสียใจมาก ไม่คิดว่ามันเป็นความจริง ไม่มีใครอยากให้มันสูญเสีย
อย่างไรก็ตาม สำหรับสวัสดิการในการดูแลช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตนั้น ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร เผยว่า ทางผู้เสียชีวิตมีสิทธิ์หลายอย่างที่โรงพยาบาลดูแลให้ รวมทั้งประกันชีวิต ทางเจ้าหน้าที่จะรวบรวมทั้งหมดให้ และในส่วนโรงพยาบาลเองก็มีเงินที่ทางโรงพยาบาลได้รวบรวมไว้แล้วเพื่อให้แก่ญาติของผู้เสียชีวิตต่อไป.