มติคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ อนุมัติการใช้วัคซีนบูสเตอร์โดส กับบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเสี่ยงสูง แม้เพิ่งได้รับเข็มแรก โดยการสลับแพลตฟอร์ม

วันที่ 12 ก.ค. นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ตอนนี้เราจำเป็นต้องเพิ่มประสิทธิภาพของวัคซีน ในการต่อสู้กับไวรัสกลายพันธุ์ ซึ่งเราประสบปัญหาอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากสายพันธุ์เดลตา ก็เข้ามาในกรุงเทพฯ มากกว่า 50% แล้ว ซึ่งขณะนี้มีการผ่านมติคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ในการอนุมัติการใช้วัคซีนบูสเตอร์โดสกับบุคลากรทางการแพทย์ ที่เป็นด่านหน้า มีความเสี่ยงสูง หลังจากที่ได้รับวัคซีนมาแล้วอย่างน้อง 2 เข็ม หรือเข็มเดียวก็ตาม จำเป็นจะต้องได้เข็มที่ 2 หรือ 3 ในการสร้างภูมิคุ้มกัน เพื่อต่อสู้กับไวรัสกลายพันธุ์ อาจจะเป็นแอสตราเซเนกา ไฟเซอร์ หรือ mRNA ทั้งนี้ จะต้องต่างแพลตฟอร์มกัน เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันที่สูง และภูมิอยู่ได้นาน อาทิ ครั้งแรกฉีดวัคซีนเชื้อตาย จะต้องฉีดบูสเตอร์ที่เป็นไวรัสเวกเตอร์ หรือ mRNA เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันดีขึ้น

...

ทั้งนี้ จากกรณีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 พบว่าส่วนใหญ่อายุมากกว่า 60 ปี มีโรคประจำตัว รวมถึง หญิงตั้งครรภ์ จึงมีนโยบายที่จะต้องฉีดให้คนกลุ่มนี้ครอบคลุมให้ได้ 80% เพื่อบรรเทาอาการป่วยหนัก ซึ่งจะได้บรรเทาเรื่องเตียงการรักษาผู้ป่วยหนักได้ และระบบสาธารณสุขเดินหน้าได้ต่อไป.