อาจารย์ศักดิ์ศรี แย้มนัดดา เขียนไว้ในหนังสือ “ศักดิ์ศรีวรรณกรรม” (สำนักพิมพ์โอเดียนสโตร์ พ.ศ.2517) ว่าบทประพันธ์ร้อยกรอง ประเภทตลกขบขัน ของไทยมีดีๆหลายเรื่อง เช่น พระมเหลเถไถ อุณรุทรร้อยเรื่อง แต่เรื่องระเด่นลันไดถือว่าเป็นยอดดีที่สุด

ความจริง บทประพันธ์ประเภทนี้ มีอยู่เป็นอันมาก แต่มักเป็นตอนสั้นๆ แทรกอยู่ในเรื่องใหญ่ เช่น เรื่องขุนช้างขุนแผน สังข์ทอง ฯลฯ แต่เรื่องระเด่นลันได อ่านได้ตลกขบขันตลอดทั้งเรื่อง

ยิ่งได้รู้ว่า พระมหามนตรี (ทรัพย์) ผู้แต่งเป็นนักเขียนปากตะไกร เสียดสีสังคมได้ถึงอกถึงใจ ตั้งใจเขียนระเด่นลันไดล้อเลียนเรื่องอิเหนา เรื่องราวของกษัตริย์วงเทวัญอสัญแดหวา เรื่องของชนชั้นสูง

ใครอ่านกระบวนแต่งอิเหนา เรียบร้อยละเมียดละไม บรรเจิดเพริศพริ้ง เมื่อได้อ่านระเด่นลันได ก็ยิ่งเพิ่มอารมณ์ขัน เอาแค่บทเริ่ม เมื่อนั้น...ซึ่งขนบบทประพันธ์ ใช้กับ “นาย” ก็ยิ้มกันแล้ว

พอตามด้วย ระเด่นลันไดอนาถา...ระเด่นในอิเหนา คือเจ้าฟ้า พระมหามนตรี ให้เป็นแขกทานหากินอยู่แถวเสาชิงช้า ระดับความขำก็เข้มข้นถึงขั้นฮากลิ้ง

ใครที่ยังไม่เคยอ่าน ผมขอคัดมาให้อ่าน ฝีมือมหามนตรีท่านแค่ไหน มาจะกล่าวบทไป ถึงระเด่นลันไดอนาถา เสวยราชย์องค์เดียวเที่ยวรำภา ตามตลาดเสาชิงช้าหน้าโบสถ์พราหมณ์ อยู่ปราสาท เสาคอดยอดด้วน กำแพงแก้วแล้วล้วนด้วยเรียวหนาม มีทหาร หอนเห่าเฝ้าโมงยาม คอยปราบปรามปัจนามิตรที่คิดร้าย

เที่ยวสีซอขอข้าวสารทุกบ้านช่อง เป็นเสบียงเลี้ยงท้องของถวาย ไม่มีใครชิงชังทั้งหญิงชาย ต่างฝากกายฝากตัวกลัวบารมี

พอโพล้เพล้เวลาจะสายัณห์ ยุงชุมสุมควันแล้วเข้าที่ บรรทมเหนือเสื่อลำแพนแท่นมณี ภูมีซบเซาเมากัญชา ครั้นรุ่งแสงสุริยันตะวันโด่ง โก้งโค้งลงในอ่างแล้วล้างหน้า เสร็จเสวยข้าวตังกับหนังปลา ลงสระสงคงคาในท้องคลอง

...

บทเปิดตัวพระเอก ระเด่นลันได ว่ามีคนจำได้มากแล้ว แต่พอถึงบทชมโฉม นางประแดะ ภรรยาของแขกเลี้ยงวัว คือท้าวประดู่ ซึ่งท้าวระเด่นลันไดแอบไปเป็นกิ๊กด้วย มีคนจำได้มากกว่า

เด็กใกล้ตัวผม ไม่ได้รักบทรักกลอนซักเท่าไหร่ ยังท่องจำได้คล่องปาก เมื่อนั้น พระสุวรรณลันไดเรืองศรี เหลียวพบสบเนตรนางตานี ภูมีพิศพักตร์ลักขณา สูงระหงทรงเพรียวเรียวรูด งามละม้ายคล้ายอูฐกะหลาป๋า พิศแต่หัวตลอดเท้าขาวแต่ตา ทั้งสองแก้มกัลยาดังลูกยอ

คิ้วก่งเหมือนกงเขาดีดฝ้าย จมูกละม้ายคล้ายพร้าขอ หูกลวงดวงพักตร์หักงอ ลำคอโตตันสั้นกลม สองเต้าห้อยตุงดังถุงตะเครียว โคนเหี่ยวแห้งรวบเหมือนบวบต้ม เสวยสลายาจุกพระโอษฐ์อม มันน่าเชยน่าชมนางเทวี

เป็นไง! โวหารเชิงพรรณนา ที่เห็นภาพโฉมงามประแดะ...กวีไหน จะแต่งได้งามสะใจเท่านี้ สุดยอดบทกลอนตลก สมัยรัชกาลที่สาม หลายคำคนแก่อย่างผมพอโมเมเหมาเข้าใจได้

แต่พอถึงบทชมนม “สองเต้าห้อยตุงดังถุงตะเครียว โคนเหี่ยวแห้งรวบเหมือนบวบต้ม” จับใจคำกลอนที่เปรียบเปรย โคนเหี่ยวแห้งรวบเหมือนบวบต้ม แล้ว แต่ติด...คำกลอนแรก “ถุงตะเครียว” ถุงอะไรหว่า? ไม่เคยเห็น

งานนี้พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พึ่งได้ ได้ความว่าถุงตะเครียว เป็นถุงทำด้วยไหมหรือผ้า เป็นตาข่าย มีหูรูด เอาเป็นว่าใส่ของแล้วยังมองเห็นเนื้อใน

ตอนนี้เรารอคิวฉีดวัคซีนสู้โควิด-19 ถ้าเหงาๆก็ลองตั้งกลุ่มวิจารณ์ โฉมงามประแดะ คู่ชู้ระเด่นลันได งามแบบไหน หน้าตา มีสิวฝ้าราคีมากน้อย แล้วเราก็จะผ่านไปได้ด้วยดีด้วยกัน...อีกวัน.

กิเลน ประลองเชิง