ปีเตอร์ไปร่วมงานสวดอภิธรรมศพพ่อของสุรัตน์ที่วัดแห่งหนึ่ง กลับถึงบ้านก็ละล่ำละลักเล่าให้ภรรยาฟังว่า ขณะที่เขากำลังเคารพศพอยู่ที่หน้าโลงนั้น Surat’s father body rattled in the coffin. ร่างของพ่อสุรัตน์ส่งเสียงกรอกแกรกอยู่ในโลง
Rattle แรต-ต’ล ในประโยคข้างบนเป็นคำกริยา สื่อถึง ‘ส่งเสียงกรอกแกรก’ ‘เขย่า’ ‘สั่น’ หรือ ‘ปลุก’ หลังจากได้ยินปีเตอร์เล่าเรื่องน่าสะพรึงให้ฟัง ภรรยาของปีเตอร์ก็ตัวสั่นด้วยความกลัว Peter’s wife rattled with fear. ภรรยาถามปีเตอร์ว่าคุณกลัวไหม ปีเตอร์หน้าซีดส่งเสียงตะกุกตะกัก ตอบไปว่า Oh, I am not rattled. โอ้ ผมไม่กลัวดอก
ระหว่างที่สองสามีภรรยากำลังคุยกัน ก็มีเสียงกึงๆกร็อกๆ แกร็กๆ ที่ลูกบิดประตู ทั้งคู่ต่างหันมองหน้ากันแล้วพูดว่า Who rattles at the doorknob? ใครเขย่าลูกบิดประตูน่ะ ปีเตอร์ค่อยๆย่องไปที่ประตูทีละก้าว ทีละก้าว พลางตะโกนว่า Don’t rattle us. อย่าทำให้เราตกใจนะ
พอปีเตอร์พูดจบก็เปิดประตูผลัวะออกไป กระแทกหน้าอีกฝ่ายที่ยืนอยู่หน้าประตู ภาพที่อยู่ตรงหน้าคือน้องสาวของปีเตอร์ ยืนถือพายที่เพิ่งอบเสร็จจะเอามาให้พี่ชาย ปีเตอร์ขอโทษขอโพยแล้วก็เล่าเรื่องลึกลับที่เจอมาให้น้องสาวฟัง เธอมองหน้าพี่ชายแล้วบอกว่า You rattled on and on. พี่พูดเพ้อเจ้อไปเรื่อย
เรื่องของ rattle ยังไม่จบ มาว่ากันต่อวันพรุ่งนี้ครับ.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
pasalok1998@gmail.com