สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านครับ สัปดาห์นี้มีเรื่องที่น่าสนใจและเป็นข่าวดังในโลกออนไลน์ เกี่ยวกับคลิปวิดีโอที่ถ่ายภาพเหตุการณ์ ขณะมีผู้ชายและผู้หญิง กำลังกวาดเศษใบไม้ใส่ที่ตักขยะบริเวณถนนหน้าบ้านของตัวเอง และภายในบ้านของตัวเอง แล้วเดินข้ามฝั่งมาโยนเศษใบไม้ใส่หน้าบ้านอีกหลังหนึ่ง ซึ่งอยู่ตรงข้ามกัน ทำให้สังคมออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์ในทำนองตำหนิพฤติกรรมของผู้ชายและผู้หญิงดังกล่าว
ส่วนผู้ชายและผู้หญิงที่อยู่ในคลิปดังกล่าว ก็ออกมาชี้แจงถึงสาเหตุที่กวาดเศษใบไม้ใส่ที่ตักขยะ และโยนไปที่บ้านของผู้อื่นนั้น สาเหตุมาจากบ้านหลังดังกล่าว ปลูกต้นแคนา เมื่อมีลมพัดก็จะทำให้เศษใบไม้และดอกแคนาปลิวไปที่บ้านของตน เมื่อใบไม้และดอกแคนาแห้งจะติดพื้น ทำให้เป็นรอยด่างสีดำ และดูเหมือนกับว่าจะมียางเหนียวๆ ติดบริเวณพื้นอีกด้วย ในวันที่เกิดเหตุนั้น เกิดอารมณ์โมโหจึงแสดงพฤติกรรมตามคลิป โดยอ้างว่าได้มีการแจ้งเจ้าของบ้านฝั่งตรงข้ามที่ปลูกต้นแคนาหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่ได้รับการแก้ปัญหาแต่อย่างใด
ส่วนเจ้าของบ้านฝั่งตรงข้าม ซึ่งเป็นผู้ที่ถ่ายคลิปโพสต์ในโลกออนไลน์ ก็ออกมาชี้แจงถึงสาเหตุที่ไม่ตัดต้นแคนา เนื่องจากว่าบ้านของเธอติดกับตึก การมีต้นแคนา จะทำให้กิ่งก้านใบบดบังตึกอีกฝั่งนึง ทำให้ไม่สามารถมองเข้ามาในบ้านของเธอได้ ซึ่งเธอก็ต้องการความเป็นส่วนตัวเช่นกัน
ในส่วนตัวของผม คงไม่ไปวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของทั้งสองฝั่งว่า ใครผิดใครถูก เนื่องจากได้ข้อเท็จจริงจากข่าวเท่านั้น แต่หากวิเคราะห์จากพฤติกรรมที่เกิดขึ้นตามคลิป พฤติกรรมดังกล่าวนั้น มีความผิดตามกฎหมายหรือไม่ และเมื่อผู้อ่านเจอสถานการณ์ในลักษณะแบบนี้ ทางออกที่ดีควรทำอย่างไร
...
การโยนเศษใบไม้ ดอกแค ใส่หน้าบ้านอีกหลังหนึ่ง ถือเป็นการกระทำด้วยประการใดๆ ให้ของโสโครกเปรอะเปื้อน หรือน่าจะเปรอะเปื้อน ตัวบุคคล หรือทรัพย์ หรือแกล้งทำให้ของโสโครกเป็นที่เดือดร้อนรำคาญ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 389 มีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ หากผู้กระทำผิดให้การรับสารภาพ และชี้แจงเหตุผลในการกระทำความผิด ศาลอาจจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือสั่งปรับสถานเดียวก็ได้

ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 389 ผู้ใดกระทำด้วยประการใดๆ ให้ของแข็งตกลง ณ ที่ใดๆ โดยประการที่น่าจะเป็นอันตรายหรือเดือดร้อนรำคาญแก่บุคคล หรือเป็นอันตรายแก่ทรัพย์ หรือกระทำด้วยประการใดๆ ให้ของโสโครกเปรอะเปื้อนหรือน่าจะเปรอะเปื้อน ตัวบุคคล หรือทรัพย์ หรือแกล้งทำให้ของโสโครกเป็นที่เดือดร้อนรำคาญ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ในส่วนของการโพสต์คลิป หรือข้อความในทำนองที่ทำให้อีกฝ่ายหนึ่ง เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง แม้จะเป็นเรื่องจริงก็ตาม แต่หากเป็นกรณีที่เป็นเรื่องส่วนตัว และประชาชนไม่ได้รับประโยชน์จากการโพสต์ข้อความหรือคลิปดังกล่าว ก็อาจจะมีความผิดในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 328 มีโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท ได้ ทั้งนี้ หากผู้กระทำผิดให้การรับสารภาพ และชี้แจงเหตุผลในการกระทำความผิด ศาลอาจจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือสั่งปรับสถานเดียวก็ได้
สุดท้ายนี้ หากท่านประสบเหตุการณ์ในลักษณะนี้ เบื้องต้นอาจจะร้องขอให้คนกลาง ซึ่งเป็นนิติบุคคลหมู่บ้าน หรือผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ศูนย์ดำรงธรรม สำนักงานเขต ที่ว่าการอำเภอ จนท.เทศบาล หรือ จนท.องค์การบริหารส่วนตำบล เข้ามาเป็นตัวกลางในการเจรจา เพื่อแก้ไขปัญหาให้ยุติลงด้วยดีทั้งสองฝ่าย หากไม่สามารถที่จะเจรจาได้แล้ว ก็สามารถที่จะแจ้งความดำเนินคดีอีกฝั่งได้ แล้วแต่ความสะดวกครับ
สำหรับท่านที่มีคำถามข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องกฎหมายและต้องการความช่วยเหลือ หรือมีเรื่องราวดีๆ อยากแบ่งปันประสบการณ์ เมลมาหาผมได้ที่ “คุยกับคนดัง” talktoceleb@trendvg3.com ได้เลยครับ
Facebook: ทนายเจมส์ LK
Instagram: james.lk