สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ออกหลักเกณฑ์คุมเข้มสายการบิน ผู้โดยสารอุณหภูมิมากกว่า 37.3 องศาฯ หรือมีอาการเข้าข่ายเสี่ยง ห้ามขึ้นเครื่อง

วันที่ 10 เมษายน นายสุทธิพงษ์ คงพูล ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ลงนามประกาศแนวทางปฏิบัติในการใช้บริการเที่ยวบินภายในประเทศ หลังสถานการณ์โรคโควิด-19 กลับมามีแนวโน้มรุนแรง และกระจายไปยังหลายพื้นที่ว่า เพื่อเป็นการยกระดับ การดำเนินมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันโรค และปรับปรุงมาตรการแนวทางในการปฏิบัติให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และมาตรการทางสาธารณสุขที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยได้เคยออกประกาศไว้

โดยมีสาระสำคัญคือ กรณีที่ผู้โดยสาร วัดอุณหภูมิร่างกาย พบว่าสูงกว่า 37.3 องศาเซลเซียส หรือมีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ทันที หากการวินิจฉัยเห็นว่ามีความเสี่ยง ให้งดการออกบัตรขึ้นเครื่อง (Boarding Pass) แก่ผู้โดยสาร

เที่ยวบินที่มีระยะเวลาในการบินเกินกว่า 90 นาที สายการบินจะต้องสำรองที่นั่ง 2 แถวหลังสุด ด้านใดด้านหนึ่งของเครื่องบินไว้สำหรับแยกกักผู้ป่วย หรือสงสัยว่าจะป่วย เพื่อสังเกตอาการ และป้องกันการแพร่กระจายของโรค

ต้องรักษาระยะห่างระหว่างผู้โดยสารทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเช็กอิน การขึ้นและลงเครื่องบิน

ลูกเรือจะต้องสวมหน้ากากอนามัย และถุงมือยางตลอดระยะเวลาปฏิบัติการบิน ขณะที่นักบินให้สวมหน้ากากอนามัยตลอด

ในส่วนของผู้โดยสาร จะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาที่อยู่ในเครื่องบิน รวมถึงไม่สามารถนำอาหาร และเครื่องดื่มของตนเอง มารับประทานในเครื่องบินได้ และขอให้ล้างมือ หรือใช้แอลกอฮอล์เจลอย่างสม่ำเสมอ

งดบริการหนังสือพิมพ์ นิตยสาร หรือ แผ่นพับโฆษณาต่างๆ ยกเว้นเอกสารที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยเท่านั้น รวมทั้งงดจำหน่ายของที่ระลึก และสินค้าปลอดภาษีอากร

...

ไม่มีบริการอาหาร และเครื่องดื่มบนเที่ยวบิน แต่หากมีเหตุฉุกเฉิน หรือจำเป็น ลูกเรืออาจพิจารณาจัดเครื่อ
งดื่มให้ผู้โดยสารได้ ทั้งนี้ ให้กระทำในพื้นที่ที่ห่างจากผู้โดยสารคนอื่นให้มากที่สุด

ทั้งนี้สามารถอ่านรายละเอียดทั้งหมดได้ ที่นี่