การประชุมร่วมระหว่างสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาภัยแล้งในลุ่มน้ำวังตอนล่าง ช่วยเหลือชาวลำปางและตาก รวม 35 ตำบล ให้รอดพ้นภัยแล้ง

กรมชลประทานได้วางแผนจัดสรรน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 2 แห่งของลำปาง อ่างเก็บน้ำกิ่วลม และอ่างเก็บน้ำกิ่วคอหมา โดยจัดสรรน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค 16.1 ล้าน ลบ.ม. เพื่อรักษาระบบนิเวศ 34.9 ล้าน ลบ.ม. เพื่อการเกษตร 11.2 ล้าน ลบ.ม. เพื่อกิจกรรมอื่นๆ 20.0 ล้าน ลบ.ม. และน้ำสำรองกรณีฝนมาล่าช้าหรือฝนทิ้งช่วง 69.8 ล้าน ลบ.ม. รวมปริมาณทั้งสิ้น 152.0 ล้าน ลบ.ม.

ผลการจัดสรรน้ำของอ่างเก็บน้ำทั้งสองแห่งจนถึงปัจจุบัน ยังคงเป็นไปตามแผน โดยจัดสรรน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคไปแล้ว 10.0 ล้าน ลบ.ม. รักษาระบบนิเวศ 21.4 ล้าน ลบ.ม. เพื่อการเกษตร 10.5 ล้าน ลบ.ม. และส่งน้ำเพื่อสนับสนุนการประปาให้ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง อีกจำนวน 5.0 ล้าน ลบ.ม. รวมปริมาณน้ำที่จัดสรรไปแล้ว 46.9 ล้าน ลบ.ม.

ยังคงเหลือน้ำที่จะต้องจัดสรรตามแผน ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.–31 ก.ค. เป็นน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค 6.1 ล้าน ลบ.ม. น้ำเพื่อรักษาระบบนิเวศ 13.5 ล้าน ลบ.ม. น้ำเพื่อการเกษตร 0.7 ล้าน ลบ.ม. และน้ำเพื่อกิจกรรมอื่นๆอีก 15 ล้าน ลบ.ม.

พร้อมวางมาตรการแนวทางการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำวัง ควบคุมให้น้ำไหลถึงพื้นที่เป้าหมาย โดยไม่ให้มีการสูบน้ำระหว่างการส่งน้ำมายังปลายทาง ยกเว้นกรณีสูบน้ำเพื่อการประปาเท่านั้น

ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบอาคารบังคับน้ำที่อยู่ระหว่างเส้นทางน้ำปิดประตูระบายน้ำทุกแห่ง และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แจ้งเตือนไปยังผู้ทำกิจการด้านปศุสัตว์และประมง รวมถึงงานก่อสร้างในลำน้ำวัง ขนย้ายวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องจักรเครื่องมือ ออกจากลำน้ำวัง นอกจากนี้ ยังได้ประสานไปยังจังหวัดตากให้จัดทำฝายชั่วคราว เพื่อเก็บกักน้ำที่ระบายจากเขื่อนกิ่วลม สำรองไว้ใช้ในอนาคตอีกด้วย

...

โดยกรมชลประทานจะเริ่มระบายน้ำตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย.64 คาดว่าน้ำจะไหลไปถึงพื้นที่ตอนล่างของแม่น้ำวัง ประมาณ 13 เม.ย.นี้ เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ชลประทานติดตามผลการส่งน้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมสร้างการรับรู้เกี่ยวกับแผนการจัดสรรน้ำในแม่น้ำวังให้กับประชาชนในพื้นที่ทราบอย่างต่อเนื่องและทั่วถึง.

สะ–เล–เต