คึกคักขึงขังตามแบบฉบับหน่วยหัวปิงปอง เมื่อปลดล็อกประกาศิตของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ที่ให้ “เซ็ตซีโร่” จุดตรวจตามท้องถนนหลวงไป “ทำการบ้าน” หาแนวทางปฏิบัติกันใหม่
เงียบหายนานเกือบ 6 เดือน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.ทำพิธีเบิกฤกษ์เปิดโฉมใหม่ “จุดตรวจวัด แอลกอฮอล์” ทั่วกรุงและเขตปริมณฑลนำร่องกวดจับ “พวกเมาแล้วขับ”
ยืนยันภารกิจยามราตรีระลอกนี้ “มีมาตรฐานสากล ใช้เทคโนโลยีทันสมัย มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้”
อ้างเพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนน ลดจำนวนผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุอันเกิดจากการขับขี่ยานพาหนะ หรือการใช้ทาง
จำเป็นต้องตั้งจุดตรวจเพื่อบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก
กำหนดมาตรการต้องได้รับอนุมัติจากผู้บังคับบัญชา ระดับ “ผู้บังคับการ” ขึ้นไป มีแผนการปฏิบัติที่ชัดเจน พิจารณาจากข้อมูลผู้กระทำความผิด/สถิติการเกิดอุบัติเหตุเมาแล้วขับ
ตั้งแผงกั้นที่มาตรฐาน แสงไฟส่องสว่าง มีแผงป้ายแสดง ยศ ชื่อ นามสกุล และตำแหน่งของหัวหน้าด่านตรวจ ตลอดจนสื่อสาร อธิบายข้อกฎหมายให้ผู้กระทำความผิดเข้าใจโดยใช้กิริยาวาจาที่สุภาพ
สำคัญคือ นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และป้องกันการทุจริต ได้แก่ นำกล้องบันทึกภาพเคลื่อนไหวที่สามารถดูการตรวจวัดแอลกอฮอล์ได้แบบปัจจุบัน (Real Time) กล้องบันทึกภาพเคลื่อนไหวชนิดติดตัวหรือหมวกนิรภัยของตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดตรวจ บันทึกข้อมูลผู้ขับขี่และผลการตรวจวัดแอลกอฮอล์ลงในระบบ TPCC (Traffic Police Checkpoint Control)
หากมีปริมาณแอลกอฮอล์ไม่เกินกฎหมายให้พิมพ์เอกสารผลการตรวจให้ผู้ขับขี่เป็นหลักฐาน
ได้เวลา “ค่าหัว” คนเมาแล้วขับขยับมากกว่า “ค่าตัว” โจรผู้ร้ายที่ชุกชุมเกลื่อนเมือง.
สหบาท