"องคมนตรี" ประชุมคณะกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ครั้งที่ 1/64 ขยายผลโครงการอันเนื่องฯ สู่มิติการพัฒนาอาชีพ นำร่องภาคละ 1 แห่ง
เมื่อวันที่ 31 มี.ค.64 นายดนุชา สินธวานนท์ เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เปิดเผยถึงการประชุมคณะกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ครั้งที่ 1/2564 โดยมี นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ในฐานะประธานกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการติดตามและขับเคลื่อนฯ พร้อมด้วยรองประธานกรรมการ ประกอบด้วย พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี นายจรัลธาดา กรรณสูต องคมนตรี พล.อ.กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี นายอำพน กิตติอำพน องคมนตรี พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี และพล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง องคมนตรี และคณะกรรมการจากหน่วยงานต่างๆ พร้อมที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการฯ ร่วมประชุม ณ อาคารสำนักงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา
โดยมีสาระสำคัญ คือ การรายงานความก้าวหน้าของโครงการติดตาม และขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในรัชกาลที่ 9 โดยมีองคมนตรีแต่ละท่านช่วยติดตาม พร้อมให้ข้อเสนอแนะซึ่ง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ สามารถขับเคลื่อนโครงการไปได้แล้ว 56 โครงการ อีก 22 โครงการ อยู่ระหว่างการขอรับการสนับสนุนงบประมาณ สำหรับโครงการที่ยังติดปัญหา โดยเฉพาะในเรื่องของขั้นตอนของกฎระเบียบต่างๆ ประมาณ 4-5 โครงการ อย่างไรก็ตามการดำเนินงานที่ผ่านมา โดยเฉพาะเรื่องแหล่งน้ำที่แล้วเสร็จ ก็ได้มีการเชื่อมโยงกับการดำเนินงานของส่วนงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ซึ่งโดยมากจะเป็นภาคการเกษตร เช่น ประมง ปศุสัตว์ พันธุ์พืช พันธุ์ปลา พันธุ์สัตว์ ก็มีการต่อยอดส่งเสริมสนับสนุนให้ราษฎรที่ได้รับประโยชน์จากโครงการนำไปดำเนินการ เป็นการต่อยอดเสริมความมั่นคงในการดำรงชีพให้มีความมั่นคงมากขึ้น
...
"การต่อยอดงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยเฉพาะเรื่องการพัฒนาแหล่งน้ำนั้น จะมีการสนับสนุนราษฎรในพื้นที่โครงการด้านพันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ พันธุ์ปลา และเรื่องการตลาด ซึ่งเหล่านี้จะเป็นมิติของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บางส่วนอย่างแหล่งต้นน้ำลำธาร จะอยู่ในส่วนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก็จะมีการบูรณาการในการทำงานร่วมกัน โดยจะเลือกเป็นโครงการนำร่องภาคละ 1 แห่งก่อน จากนั้นจะถอดบทเรียนจากโครงการนี้นำไปขยายผลสู่พื้นที่อื่นๆที่มีความพร้อมต่อไป และจะมีการต่อยอดในลักษณะแผนที่สอดรับกัน" นายดนุชา กล่าว
นายดนุชา กล่าวเพิ่มเติมว่า คณะทำงานฯได้เสนอโครงการฯ ที่จะนำมาต่อยอดเป็นการนำร่อง จำนวน 4 โครงการ ได้แก่ โครงการปรับปรุงคลองผันน้ำร่องสักและโครงการก่อสร้างฝายร่องขุยพร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.พะเยา โครงการเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี โครงการพัฒนาแหล่งน้ำสองฝั่งลำน้ำชีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.ชัยภูมิ และโครงการอาคารอัดน้ำบ้านเนินทองพร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.ระนอง โดยคณะทำงานจะน้อมนำหลักการทรงงาน หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางหลักในการพัฒนา เพื่อให้ครอบคลุมในหลายมิติ อันเป็นการเพิ่มพูนประโยชน์สุขให้แก่ราษฎรตามพระบรมราโชบายในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสืบสาน รักษา ต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต่อไป