ในสังคมที่ปลอดภัย ย่อมเป็นที่ปรารถนาของมนุษย์ หากมีคนสันดานโจรก่อความไม่สงบ คนในสังคมจะลงโทษตามทฤษฎีการล้างแค้น ชนิดตาต่อตา ฟันต่อฟัน!
ปัจจุบันทฤษฎีกฎหมายการลงโทษดังกล่าว ถูกแปลงมาเป็นกฎหมายคือ ประมวลกฎหมายอาญา ที่เขียนไว้ชัดเจนในมาตรา 2
ต่อมาสังคมเขียนกฎหมายมาอีกฉบับคือ กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เรื่องการจับตัวเอาคนผิดมาสอบสวนฟ้องลงโทษ และเยียวยาค่าเสียหายทางแพ่ง เขียนไว้สอดคล้องกัน
เพราะกฎหมาย เป็นเครื่องมือของรัฐ ในการทำให้สังคมสงบสุข
คืนวันที่ 27 ก.พ. เวลาใกล้เที่ยงคืน นายแบ็ง คง ลี (mr.bang cong le) ผู้เสียหาย เป็น นศ.แลกเปลี่ยนปริญญาเอก มศว สัญชาติเวียดนาม ออกไปซ้อมวิ่งบริเวณริมถนนราชวิถี เลี้ยวออกซอยราชวิถี 6
ถึงจะเป็นเวลามิดไนต์แต่คนยังคึกคัก ไม่ถือว่าเปลี่ยว?
แต่มีคนร้ายเป็นชายวิ่งถือไฟฉายตามประกบทางด้านหลัง แล้วเตะ นศ.หนุ่มจนล้ม พลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์กำลังเดินกลับบ้านเห็น รีบหยิบโทรศัพท์มากดจะแจ้งตำรวจ!
กลับมีคนร้ายอีก 4 คนโผล่มาจากไหนไม่รู้ รุมกระทืบทั้งพลเมืองดีและเหยื่อถึงขั้นกรามหัก ขาหัก!
ช่วงเกิดเหตุยังโชคดีที่มีพ่อค้าแม่ค้าแถวนั้นออกมาโวยวาย คนร้ายจึงหยุดมือรีบวิ่งไปขึ้นรถ จยย.แยกย้ายกันหลบหนี ภาพวงจรปิด พยานบุคคลเป็นหลักฐานอย่างดี กลายเป็นข่าวดังถึงภัยร้ายกลางกรุง
แต่น่าเศร้า หลังผ่านไปหลายวัน ผู้เสียหายไปตามเรื่อง ปรากฏว่า คดียังไม่มีความคืบ?!
คนเจ็บเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนในประชาคมอาเซียน ข่าวคนของเขาถูกกระทืบฟรีคงไม่เป็นผลดีแน่ ย่านนั้นมีอพาร์ตเมนต์ที่คนทำงานเช่าพักเต็มไปหมด กลับบ้านดึกดื่นรู้สึกไม่ปลอดภัย
ถึงจะช้า แต่ล่าสุดชุดสืบสวน สน.ดินแดง ตามจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาได้แล้ว
แต่ “อาชญากรรม” เป็นเรื่องใกล้ตัว ตำรวจต้องป้องกันเหตุให้ดีกว่านี้?
สหบาท