"กรมการแพทย์" เตือนกลุ่มวัยทำงานควรรับประทานอาหารให้ครบ 3 มื้อ เพื่อป้องกันการเกิด "โรคกระเพาะอาหารอักเสบเรื้อรัง" ในอนาคต พร้อมเผยสัญญาณเตือนโรค แนะวิธีการป้องกัน

นายแพทย์ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เผยว่า ปัจจุบันในกลุ่มวัยทำงาน มักเสี่ยงเป็นโรคกระเพาะมากกว่ากลุ่มอื่น สาเหตุเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตในสังคมวัยทำงานที่เร่งรีบ มีความเครียด ความกังวล ส่งผลให้รับประทานอาหารไม่ตรงเวลา การดื่มสุรา การสูบบุหรี่ หรือการรับประทานยาแก้ปวดจำพวก Aspirin ยาลดการอักเสบเป็นประจำ อีกทั้งการติดเชื้อเฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร ที่อาศัยอยู่ในกระเพาะอาหารของคน ส่งผลทำให้เกิดโรคกระเพาะได้

ทางด้าน นายแพทย์สมเกียรติ ลลิตวงศา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า อาการของโรคกระเพาะนั้นสังเกตได้ ดังนี้ อาการปวดแสบ, ปวดตื้อ, จุกเสียดหรือจุกแน่นบริเวณใต้ลิ้นปี่, อาหารไม่ย่อย, ลมในท้องเยอะ (สามารถเกิดก่อน–หลังรับประทานอาหารได้), คลื่นไส้, อาเจียน และอิ่มง่าย

สำหรับวิธีการป้องกัน ไม่ให้เกิดโรคกระเพาะอาหารนั้น สามารถดูแลได้ด้วยตัวเอง คือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารให้ตรงเวลา อย่าปล่อยให้ท้องว่างเกิน 3 ชั่วโมง รับประทานอาหารจำนวนน้อยๆ ย่อยง่าย ในแต่ละมื้อควรหลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่กระตุ้นให้เกิดอาการปวดท้อง เช่น อาหารรสจัด, รสเปรี้ยว, อาหารหมักดอง, งดเครื่องดื่มกาแฟ, ช็อกโกแลต, แอลกอฮอล์, บุหรี่, น้ำอัดลม เพราะมีแก๊สมาก กระเพาะขยายตัว ทำให้ปวดมากขึ้นและกระตุ้นให้หลั่งกรดเพิ่มขึ้นด้วย, งดการใช้ยาแก้ปวดแอสไพริน และยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAID)

รวมทั้ง หลีกเลี่ยงความเครียด, ความวิตกกังวล เพราะความเครียดจะกระตุ้นให้กรดออกมาก ตามธรรมชาติเมื่อกรดออกมากจะสร้างแก๊สมาก กระเพาะจะขยายและเกร็งตัวทำให้มีอาการปวดท้องมากกว่าปกติ หากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีอาการปวดท้องรุนแรง น้ำหนักลด อาเจียนเป็นเลือด ถ่ายอุจจาระสีดำ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที.

...