ภาพความเคลื่อนไหวของกลุ่มราษฎรที่จัด “ค่ายราษฎรออนทัวร์” ปักหลักค้างคืนหน้า สภ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ พร้อมการแขวนป้ายผ้าขนาดใหญ่ ระบุข้อความที่ไม่เหมาะสมด้านหน้าโรงพัก
ข้อความที่เขียนติดแขวนหน้าโรงพักคนไทยรับไม่ได้ มิหนำซ้ำป้ายข้อความถูกนำมาติดแขวนไว้ที่ด้านหน้าโรงพัก สภ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ เขตพื้นที่สถานีตำรวจที่คนคิดว่ากฎหมายต้องมีความศักดิ์สิทธิ์
คำถามที่เกิดขึ้นตำรวจทำอะไรกันอยู่
ผกก. รอง ผกก. และ สว. ซึ่งเป็นระดับผู้บังคับบัญชาหายหน้ากันไปไหน ทำไมไม่มาเจรจาพูดคุยกับกลุ่มผู้ชุมนุม ระงับ ยับยั้ง หรือดำเนินคดี ปล่อยให้เกิดภาพที่ไม่สมควรแบบนี้ปรากฏออกมาได้อย่างไร
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบช.ภ.3 รับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น มองว่าเป็นความบกพร่องร้ายแรงของตำรวจผู้รับผิดชอบพื้นที่ ผบช.ภ.3 มีคำสั่งย้ายด่วน พ.ต.อ.เพิ่มสุข ศิริพละ ผกก.สภ ภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 3 โดยขาดจากตำแหน่ง โดยไม่มีกำหนด
ให้เหตุผลว่า ผกก.สภ.ภูเขียว “ไร้จิตสำนึกความเป็นตำรวจ” ไร้ซึ่งระเบียบวินัยและไร้ซึ่งแผนเผชิญเหตุ เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนต้องเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างสูงสุด
ซึ่งขณะเกิดเหตุไม่รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ผู้บังคับบัญชารับทราบตามลำดับชั้น
แสดงถึงการปล่อยปละละเลยและหย่อนยาน
ผู้บังคับบัญชาได้เห็นภาพไม่เหมาะสมหลังถูกเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ถือเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับ ผกก. เป็นระดับหัวหน้าหน่วย ตำแหน่งที่ได้มานั้นพร้อมด้วย อำนาจ–หน้าที่–ความรับผิดชอบ สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ฝ่าฝืนกฎหมายและทำร้ายความรู้สึกคนไทย ท้องที่ ปล่อยให้เกิดเหตุ ไม่มีแผน ไม่มีมาตรการอะไร
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ ยังลงโทษตนเอง โกนหัวธำรงวินัย แสดงความรับผิดชอบ กรณีกลุ่มราษฎรแขวนป้าย แม้ว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่คนเป็นนายเมื่อหน่วยหย่อนยานพร้อมรับผิดชอบและแก้ไข
ผบช.ภ.3 ลงพื้นที่ สภ.ภูเขียว ทันที เรียกประชุมสั่งรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีกลุ่มผู้ร่วมกระทำผิดทุกข้อหาอย่างเด็ดขาด และมีคำสั่งกำชับไปยังทุก สภ.ในพื้นที่ บช.ภ.3 ห้ามปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก
ภาพของ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบช.ภ.3 ที่โดดลงมาร่วมรับผิดชอบ ธำรงวินัยตนเอง เป็นอีกมิติของตำรวจรุ่นใหม่และแสดงให้เห็นเป็นตัวอย่างคนที่เป็นนายไม่หลบหนีปัญหา “ลอยตัว” พร้อมแก้ไข รับผิดชอบในความผิดพลาดของหน่วย แม้จะเป็นความบกพร่องของตำรวจท้องที่ที่ต้องรับผิดชอบเต็มๆ
แต่ความเป็นนายย่อมหนีไม่พ้น อำนาจ–หน้าที่–ความรับผิดชอบ
ช่วยเรียกคืนความศรัทธาและเชื่อมั่นของตำรวจกลับคืนมาโดยเร็วที่สุด
ถือเป็นสปิริต เป็นภาวะผู้นำของผู้บังคับบัญชาที่ได้ใจลูกน้อง.