สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านครับ สัปดาห์นี้มีเรื่องที่น่าสนใจที่มีแฟนเพจทนายเจมส์ LK สอบถามเข้ามา เป็นประเด็นที่สามีชอบดื่มสุราเป็นอาจิณ และเมื่อมึนเมาก็จะทำร้ายร่างกายภรรยาเป็นประจำ จะเป็นเหตุให้ภรรยาใช้อ้างเพื่อยื่นฟ้องหย่าสามีได้หรือไม่
กรณีสามีชอบดื่มสุราเป็นอาจิณ และเมื่อมึนเมาก็จะทำร้ายร่างกายภรรยาเป็นประจำ หรือด่าทอภรรยาด้วยถ้อยคำหยาบคายเป็นประจำ ถือเป็นการประพฤติชั่วครับ ภรรยาสามารถใช้เป็นเหตุฟ้องหย่าสามีได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1516 (2) เทียบเคียงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 13082/2558, 6175/2537
มีข้อสังเกตเพิ่มเติม กรณีที่สามีหรือภรรยาชอบดื่มสุราเป็นประจำ หรือชอบงานสังสรรค์ตามปกติ ซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตครอบครัว การดื่มสุราเป็นประจำเพียงอย่างเดียวดังกล่าว ยังไม่อาจจะนำไปใช้อ้างเป็นเหตุฟ้องหย่าได้นะครับ ทั้งนี้ จะต้องมีพฤติการณ์อื่นๆ มาประกอบด้วย เช่น มึนเมาแล้วชอบด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย หรือมึนเมาแล้วชอบทำร้ายร่างกาย หรือมึนเมาแล้วชอบร่วมประเวณีกับผู้อื่น หรือเมาทั้งวันงานการไม่ทำ เป็นต้น จึงจะถือว่าเป็นการประพฤติชั่วเป็นเหตุให้ได้รับความเสียหายและเดือดร้อนเกินควรในเมื่อเอาสภาพฐานะ และความเป็นอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยามาคำนึงประกอบ จึงจะเป็นเหตุฟ้องหย่าได้
นอกจากนี้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1516 มีเหตุฟ้องหย่าอีก 12 เหตุดังต่อไปนี้
(1) สามีหรือภริยาอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องผู้อื่นฉันภริยาหรือสามี เป็นชู้หรือมีชู้ หรือร่วมประเวณีกับผู้อื่นเป็นอาจิณ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(2) สามีหรือภริยาประพฤติชั่ว ไม่ว่าความประพฤติชั่วนั้นจะเป็นความผิดอาญาหรือไม่ ถ้าเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่ง
(ก) ได้รับความอับอายขายหน้าอย่างร้ายแรง
...
(ข) ได้รับความดูถูกเกลียดชังเพราะเหตุที่คงเป็นสามีหรือภริยาของฝ่ายที่ประพฤติชั่วอยู่ต่อไป หรือ
(ค) ได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกินควร ในเมื่อเอาสภาพ ฐานะและความเป็นอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยามาคำนึงประกอบอีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(3) สามีหรือภริยาทำร้าย หรือทรมานร่างกายหรือจิตใจ หรือหมิ่นประมาทหรือเหยียดหยามอีกฝ่ายหนึ่งหรือบุพการีของอีกฝ่ายหนึ่ง ทั้งนี้ ถ้าเป็นการร้ายแรง อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(4) สามีหรือภริยาจงใจละทิ้งร้างอีกฝ่ายหนึ่งไปเกินหนึ่งปี อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(4/1) สามีหรือภริยาต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก และได้ถูกจำคุกเกินหนึ่งปีในความผิดที่อีกฝ่ายหนึ่งมิได้มีส่วนก่อให้เกิดการกระทำความผิดหรือยินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดนั้นด้วย และการเป็นสามีภริยากันต่อไปจะเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่งได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกินควร อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(4/2) สามีและภริยาสมัครใจแยกกันอยู่เพราะเหตุที่ไม่อาจอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาได้โดยปกติสุขตลอดมาเกินสามปี หรือแยกกันอยู่ตามคำสั่งของศาลเป็นเวลาเกินสามปี ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(5) สามีหรือภริยาถูกศาลสั่งให้เป็นคนสาบสูญ หรือไปจากภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่เป็นเวลาเกินสามปีโดยไม่มีใครทราบแน่ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(6) สามีหรือภริยาไม่ให้ความช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูอีกฝ่ายหนึ่งตามสมควรหรือทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการที่เป็นสามีหรือภริยากันอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ ถ้าการกระทำนั้นถึงขนาดที่อีกฝ่ายหนึ่งเดือดร้อนเกินควรในเมื่อเอาสภาพ ฐานะและความเป็นอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยามาคำนึงประกอบ อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(7) สามีหรือภริยาวิกลจริตตลอดมาเกินสามปี และความวิกลจริตนั้นมีลักษณะยากจะหายได้ กับทั้งความวิกลจริตถึงขนาดที่จะทนอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาต่อไปไม่ได้ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(8) สามีหรือภริยาผิดทัณฑ์บนที่ทำให้ไว้เป็นหนังสือในเรื่องความประพฤติ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(9) สามีหรือภริยาเป็นโรคติดต่ออย่างร้ายแรงอันอาจเป็นภัยแก่อีกฝ่ายหนึ่ง และโรคมีลักษณะเรื้อรังไม่มีทางที่จะหายได้ อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(10) สามีหรือภริยามีสภาพแห่งกาย ทำให้สามีหรือภริยานั้นไม่อาจร่วมประเวณีได้ตลอดกาล อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
ทั้งนี้ ในการฟ้องหย่านั้น สามารถที่จะอ้างเหตุเดียว หรือหลายๆ เหตุรวมกัน เพื่อประกอบการฟ้องหย่าได้ครับ
สุดท้ายนี้ การใช้ชีวิตคู่ควรที่จะให้เกียรติกันซึ่งกันและกัน ควรรู้จักการทะนุถนอมน้ำใจของอีกฝ่าย ควรช่วยเหลือกันยามทุกข์ยาก และเรียนรู้เข้าใจให้อภัยกัน จะช่วยประคับประคองชีวิตสมรสให้ราบรื่นและมีความสุข ไม่ใช่ให้อีกฝ่ายจำยอมหรือต้องอดทนรับในสิ่งที่ตนเองเป็นแต่ฝ่ายเดียว เพราะอาจจะทำให้เกิดปัญหาครอบครัวต่อไปในอนาคต ส่งผลกระทบต่อทุกคนที่อยู่รอบข้าง โดยเฉพาะเด็ก ควรได้เห็นตัวอย่างที่ดีของพ่อแม่ครับ
...
สำหรับท่านที่มีคำถามข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องกฎหมายและต้องการความช่วยเหลือ หรือมีเรื่องราวดีๆ อยากแบ่งปันประสบการณ์ เมลมาหาผมได้ที่ “คุยกับคนดัง” talktoceleb@trendvg3.com ได้เลยครับ
Facebook: ทนายเจมส์ LK
Instagram: james.lk