- ขรก.สาวสวย สำนักปลัด กทม. กลายเป็นศพหมกรถเก๋ง
- แฟนหนุ่มต้องสงสัย หายตัวไปหลังเกิดเหตุ
- ออกหมายจับ “แฟนหนุ่มอำมหิต” เอาผิด 3 ข้อหา
กลายเป็นคดีพิศวาสฆาตกรรม กรณีพบศพ น.ส.ฐิติรัตน์ หรือน้องเอ้ สีห์ราช อายุ 35 ปี เจ้าพนักงานธุรการชำนาญงาน กลุ่มงานประเมินผล ส่วนบรรจุและแต่งตั้ง สำนักงานการเจ้าหน้าที่ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร ถูกยิงที่หน้าท้องขวา 5 นัด เสียชีวิตในรถเก๋งที่จอดอยู่ใต้ต้นกระถินณรงค์ ริมถนนสายเปลี่ยวที่ใครหลายๆ คนน่าจะรู้จักกันดีในชื่อ “เซาท์เทิร์น” ซึ่งคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นน้ำมือของแฟนหนุ่มผู้ตายที่มีแพลนจะแต่งงานกันเร็วๆ นี้
ขรก.สาวสวย สำนักปลัด กทม. กลายเป็นศพหมกรถเก๋ง
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเย็น วันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.วีระศักดิ์ ศิริมงคล สว.(สอบสวน) สภ.พุนพิน รับแจ้งจากพลเมืองดีพบผู้เสียชีวิตภายในรถเก๋ง ริมถนนสายเซาท์เทิร์นซีบอร์ด (สุราษฎร์ธานี-กระบี่) ฝั่งขาเข้าสุราษฎร์ธานี บริเวณบ้านเขาพูล หมู่ 5 ต.ท่าสะท้อน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.วิรุฬห์ สุวรรณวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี, พ.ต.ท.โยธินทร์ สิทธิโยธี รอง ผกก.ป.สภ.พุนพิน เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 และกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาท่าสะท้อน บ้านนาเดิมและขุนทะเล
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว ทะเบียน 5 กฉ 1397 กรุงเทพมหานคร ประตูไม่ได้ล็อก ภายในรถที่เบาะผู้โดยสารข้างคนขับ พบศพ “น้องเอ้” ข้าราชการสาวสวย สำนักปลัด กทม. สวมแมสก์ ใส่เสื้อยืดสีชมพูทับด้วยเสื้อแจ็กเกตยีนส์สีน้ำเงินคาดเข็มขัดนิรภัย นั่งอยู่ในสภาพคอพับไปด้านขวา ตรวจสอบที่ใบหน้ามีบาดแผลถูกทำร้ายปูดบวม เป็นรอยเขียวช้ำที่ขอบตาด้านขวา ที่บริเวณหน้าท้องมีรอยคล้ายกระสุนปืนหลายแห่งเป็นแนวขึ้นชายโครงด้านขวา นอกจากนี้ยังพบกระเป๋าเงินตกอยู่ที่วางเท้า ส่วนที่เบาะด้านหลังมีกระเป๋าถือสีดำ 1 ใบวางอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำศพส่งชันสูตรอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลพุนพิน
...
จากรายงานการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ก่อนพบศพได้มีพลเมืองดีขับรถยนต์ผ่านมาพบรถเก๋งคันดังกล่าว จอดผิดปกติเป็นวันที่ 3 จึงตัดสินใจเข้าไปดู กระทั่งพบมีผู้เสียชีวิตดังกล่าว จึงรีบแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ
แฟนหนุ่มต้องสงสัย หายตัวไปหลังเกิดเหตุ
หลังจากนั้น พ.ต.ท.วีระศักดิ์ ศิริมงคล พนักงานสอบสวน สภ.พุนพิน เจ้าของคดี ได้สอบปากคำญาติผู้เสียชีวิตจนทราบว่า คนที่อยู่กับผู้ตายคนสุดท้ายคือแฟนหนุ่ม เป็นชาว อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช โดยก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา ผู้ตายได้พาชายคนดังกล่าวไปพบกับญาติ และแจ้งว่ามีแผนจะแต่งงานกันเร็วๆ นี้ ก่อนเกิดเหตุทราบว่าผู้ตายขับรถเก๋งคันดังกล่าวเดินทางลงภาคใต้ เพื่อจะไปพบปะญาติของแฟนหนุ่มในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช จากการรวบรวมพยานหลักฐานและประมวลเหตุการณ์แล้ว ตำรวจเชื่อว่าแฟนหนุ่มของผู้ตายมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ
ออกหมายจับ “แฟนหนุ่มอำมหิต” เอาผิด 3 ข้อหา
ต่อมา ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้อนุมัติหมายจับ นายโอชา สวนจันทร์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/2 หมู่ 3 ต.บ้านราม อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนฯไปในเมืองฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามคำร้องของพนักงานสอบสวน สภ.พุนพิน เนื่องจากภายหลังการสอบสวนพยาน เป็นน้องชายของผู้ก่อเหตุ ทราบว่า เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. วันที่ 19 ธ.ค. ได้รับโทรศัพท์จากนายโอชา ให้ขับรถมารับยังจุดพบศพ สอบถามนายโอชาอ้างว่าทำปืนลั่นใส่ “น้องเอ้” แฟนสาวจนเสียชีวิต
หลังได้หมายจับคนร้าย ชุดสืบสวน บก.สส.ภ.8 ไม่รอช้า นำโดย พ.ต.ท.ธนัญชัย นวลนิรันดร์ รอง ผกก.ปพ.บก.สส.ภ.8 นำกำลังไปควบคุมตัวนายโอชาได้ที่บ้านในพื้นที่ อ.หัวไทร
...
ไปหลอกว่ารวย-ปากแข็งไม่ได้ตั้งใจฆ่า
เบื้องต้นนายโอชาให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุจริง และเพิ่งคบหากับฝ่ายหญิงมาได้ระยะหนึ่ง โดยตนเองได้โกหกผู้ตายว่า เป็นคนมีฐานะ มีที่มีทางอยู่ที่ จ.นครศรีธรรมราช ทั้งที่จริงๆ แล้วประกอบอาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง โดยเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ตนเองและผู้ตายได้ไปหาพ่อแม่ฝ่ายหญิงที่ จ.ชัยภูมิ หลังจากนั้นได้พาผู้ตายไปบ้านที่ จ.นครศรีธรรมราช แต่เมื่อฝ่ายหญิงมารู้ว่าตนเองไม่ได้ร่ำรวยเหมือนที่พูด จึงรู้สึกว่าเหมือนถูกหลอก และเริ่มตีตัวออกห่าง
“ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายได้ขับรถมารับบริเวณซอยจรัญสนิทวงศ์ 37 เพื่อที่จะมุ่งหน้ากลับบ้านที่ อ.หัวไทร ระหว่างทางในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ได้เกิดมีปากเสียงกับผู้ตายเกี่ยวกับเรื่องที่ตนเองไปหลอกว่าเป็นคนรวย จึงได้ชักอาวุธปืนขนาด .38 มม.ออกมาเพื่อข่มขู่ แต่ปืนเกิดลั่นใส่ผู้ตายจนเสียชีวิต และได้นำเสื้อแจ็กเกตมาคลุมตัวไว้ พร้อมใส่แมสก์ที่จมูกทำให้เหมือนคนนอนหลับ”
...
หลังก่อเหตุได้นำอาวุธปืนไปทิ้งในช่วงสามแยกวังมะนาว ถึง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากนั้นได้ขับรถโดยมีศพนั่งมาด้วยนานกว่า 6 ชั่วโมง จนมาถึงพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ได้โทรไปบอกน้องชายว่า "ทำปืนลั่นใส่แฟนจนตาย" และได้นำรถมาจอดที่จุดเกิดเหตุ ก่อนที่จะให้น้องชายขับรถมารับเพื่อหลบหนีไป อ.หัวไทร กระทั่งทางญาติพี่น้องติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อประสานเข้ามอบตัว เนื่องจากทนแรงกดดันของตำรวจไม่ไหว....
ปิดฉากอีกหนึ่งคดีพิศวาสฆาตกรรมอันโหดเหี้ยม
เรื่อง : ชัชเวทย์
กราฟิก : phantira thongcherd