ถามตรงๆ กับจอมขวัญ พูดคุยกับ ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อประเมินสถานการณ์ "โควิด–19" ในรอบเดือนที่ผ่านมา
ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ยืนยันว่าประเทศไทยยังไม่ใช่การระบาดระลอก 2 แต่ที่เราห่วงคือคนที่หลุดไปจากระบบ แล้วจำนวนการติดเชื้อในประเทศที่เยอะขึ้น โดยไม่ได้เป็นคนที่อยู่ในสถานที่กักกันโรค คนที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าติดเชื้อมาจากไหน แบบนี้ต้องระวังเพราะกลุ่มเหล่านี้จะเป็นกลุ่มที่แพร่กระจายเชื้อ เนื่องจากหลุดมาจากระบบการควบคุม
เมื่อถามว่า ถ้าเชื้อโควิด-19 กระจายตัวเร็วกว่าเดิม ต้องทำอย่างไร ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ เผยว่า ต้องกลับมามีวินัยทำให้ได้เหมือนช่วงต้นๆ ย้อนไปช่วงประมาณเดือนเมษายน ประเทศไทยเราดีมาก อัตราการใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ รักษาระยะห่าง คนไทยเราทำได้ค่อนข้างดี แต่หลังจากนั้นมันลดลงมาเรื่อยๆ เพราะพวกเรารู้สึกว่ามันไม่มีการติดเชื้อในประเทศ
แต่เนื่องจากสถานการณ์ในตอนนี้เราต้องกลับมาทำอย่างเข้มงวด เพราะต้องค้นหาผู้ที่เสี่ยงเข้าไปกักเชื้อ แล้วก็ย้ายคนพวกนี้ออกไปจากสังคม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ฉะนั้นสิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือป้องกันตัวเอง ด้วยการกลับมาใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ และรักษาระยะห่าง แล้วก็อย่าเข้าไปในที่ชุมนุมเยอะๆ เพราะตรงนั้นคือพื้นที่เสี่ยง
เมื่อถามว่า การเตรียมเปิดประเทศไทยโดยมีกำหนดว่านักท่องเที่ยวจะมาจากประเทศอะไร คิดว่ามีผลแค่ไหน ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ เผยว่า ชวนคิดไปพร้อมๆ กัน ณ วันนี้เศรษฐกิจของประเทศแม้จะแย่ลง แต่มันยังขับเคลื่อนได้โดยคนภายในประเทศ สถานที่ท่องเที่ยวทั้งหลายก็มีคนในประเทศไปเที่ยว โดยชาวบ้านรากหญ้าก็ยังสามารถทำธุรกิจได้
...
แต่ถ้าการติดเชื้อกลับเข้ามา คนก็จะไม่ไปเที่ยว ทุกอย่างจะยิ่งแย่ลง การติดเชื้อในประเทศเราสามารถควบคุมได้ง่าย แต่ถ้าเชื้อมาจากต่างประเทศแล้วเราไม่มีมาตรการควบคุมที่ดีพอ มันจะเริ่มอันตราย ส่วนตัวคิดว่าถ้าอยากจะเริ่มเปิดประเทศ ต้องลดโอกาสการระบาดให้ได้มากที่สุด.