ชาวนาที่กำลังเก็บเกี่ยวข้าวในพื้นที่ อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ บอกเล่าว่า หลังจากที่มีโซเชียลกระหึ่มในเรื่องของการนำข้าวออกมาตากแดดให้แห้งก่อนที่จะนำขึ้นยุ้งฉาง บางส่วนเก็บไว้กินใน ครัวเรือน

นายอดุลย์ เจือจันทร์ อายุ 56 ปี บ้านเลขที่ 21 บ้านสวายหมู่ที่ 7 ต.แตล อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ นายอดุลย์กล่าวว่า ตนไม่สบายใจที่มีกระแสข่าวออกไปในโลกโซเชียลในกรณีที่นำข้าวมาตากบนท้องถนนเกรงว่าจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ทางหลวง พ.ศ.2535

มีทั้งโทษจำและติดคุกปรับ

ซึ่งยอมรับว่า ภายใน 1 ปี จะมีชาวบ้านที่มีความจำเป็นได้นำข้าวออกมาตากแดด เพื่อให้มันแห้งก่อนที่จะนำเข้ายุ้งฉาง

ส่วนหนึ่งนำออกไปขายใช้หนี้ ธ.ก.ส.

เพราะถือว่ามันเป็นเรื่องจำเป็นมากถึงแม้ว่าจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ทางหลวง

แต่ได้นำแผงกั้น และสัญญาณไฟตลอดจนกรวยมาวางกั้นเอาไว้เพื่อให้พี่น้องประชาชนสัญจรเดินทางไปได้ด้วยความสะดวก

ปัญหาที่ชาวนาลำบากมากในช่วงนี้คือ ราคาข้าวกิโลกรัมละ 6 บาท

ไหนจะค่าเก็บเกี่ยวไร่ละ 500 ถึง 600 บาท

ข้าวปีนี้มีทั้งหญ้ามาผสมผสานประกอบกับฝนฟ้าที่ไม่ตกต้องตามฤดูกาล พอตกมาแล้วก็มาพบปัญหาน้ำท่วม พอนำมาขายได้กิโลกรัมละ 6 บาท ตกตันละ 5 ถึง 6 พันบาท

มันไม่คุ้มกันเลย

ชาวบ้านบอกว่า วอนอยากให้ทางรัฐบาลมีนโยบายมาประกันราคาข้าวให้สูงขึ้น ชาวนาถึงจะมีเงินใช้หนี้ประกอบกับข้าวที่นำมาตากแดดบนท้องถนนหลวง

ถ้าหากว่า มีเจ้าหน้าที่มาจับดำเนินคดีชาวนาคงตาย
แน่เลย

สำรวจพื้นที่บนท้องถนนในเขตพื้นที่ ต.ช่างปี่ ต.หนองเหล็ก ต.หนองบัว ต.จารพัต และ ต.ขวาวใหญ่ ได้มีพี่น้องประชาชนในพื้นที่นำข้าวมาผึ่งแดดตามท้องถนน

บางพื้นที่ใช้ข้าวที่นำมาผึ่งแดด มีความยาว 4 ถึง 5 กิโลเมตร เพื่อที่จะให้ข้าวแห้งและนำไปขายบางส่วน และบางส่วนนำเอาไว้กิน

...

ซึ่งเป็น “วิถีชาวบ้าน” ที่อาจขัดต่อกฎหมาย.

“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th