"สุทธิพงษ์" ติวเข้ม "นักพัฒนาชุมชน" ต้องมีทัศนคติดี มีความเสียสละ จิตใจมุ่งมั่น บำบัดทุกข์-บำรุงสุข เพื่อพี่น้องประชาชน

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย บรรยายพิเศษในหัวข้อ "นักพัฒนาผู้นำการเปลี่ยนแปลงสู่ชุมชน" ตามโครงการฝึกอบรมหลักสูตร "นักพัฒนาชุมชน" รุ่นที่ 30 ภายใต้ความร่วมมือของ 3 หน่วยงาน ได้แก่ กรมการพัฒนาชุมชน กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมี นายธนวัฒน์ ปิ่นแก้ว ผู้อำนวยการสถาบันการพัฒนาชุมชน, นายเอกราช ญาณอุบล ผู้อำนวยการวิทยาลัยการพัฒนาชุมชน (พช.) รศ.กมลทิพย์ แจ่มกระจ่าง (มธ.), นางสาวฐิติมา ปุยอ๊อต ผู้อำนวยการกลุ่มงานวิชาการเพื่อการพัฒนาบุคลากรท้องถิ่น สถาบันพัฒนาบุคลากรท้องถิ่น (สถ.) และนักพัฒนาชุมชนระดับปฏิบัติการและชำนาญการจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ เข้าร่วมจำนวน 83 คน ณ วิทยาลัยการพัฒนาชุมชน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ทางด้าน นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า นักพัฒนาชุมชนทุกท่านเป็นดังความหวังของประเทศชาติ เพราะทุกท่านคือผู้ที่มีจิตใจปรารถนาให้เกิดสิ่งที่ดีงาม อำนวยให้เกิดประโยชน์สุข คลายทุกข์ให้กับพี่น้องประชาชน เช่นเดียวกับวิสัยทัศน์ของกระทรวงมหาดไทย คือ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ตามเจตนารมณ์ของสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ที่เรายังคงยึดมั่นตราบจนปัจจุบัน การตัดสินใจเข้ามาอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ทางราชการ ไม่ว่าจะอยู่ในสังกัดหรือพื้นที่ใดจึงต้องมีใจเสียสละ ทุ่มเท เพื่อสร้างสรรค์สิ่งดีให้เกิดกับพี่น้องประชาชน

สำหรับการพัฒนานั้นมีความหมายในเชิงบวก นั่นคือ การนำไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น คนที่จะเป็นนักพัฒนาจึงเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง อันมีคุณสมบัติ สติปัญญา ที่สามารถสร้างสรรค์สิ่งที่ดีงามสู่สังคม ขอให้จดจำความรู้สึกปีติยินดี และความฮึกเหิมในอุดมการณ์ของการพัฒนา เช่นในวันแรกที่ได้เข้ามาในตำแหน่งนักพัฒนาให้ดี และพยายามหล่อเลี้ยงไฟในการทำงานนี้ให้คงอยู่ตลอดไป เพราะคุณค่าที่แท้จริง ไม่ว่าจะต่อส่วนตัวหรือภาระหน้าที่โดยแท้จริง คือ การทำเพื่อผู้อื่น ทำเพื่อส่วนรวม

...

ขณะที่หัวใจของของงานพัฒนาชุมชน คือ พี่น้องประชาชน นักพัฒนาชุมชนเป็นตัวแทนของส่วนราชการที่ใกล้ชิดประชาชนที่สุด จำเป็นต้องเข้าใจในบริบทชุมชนทุกมิติ เช่น รากเหง้าวิถีชีวิต ศิลปะ วัฒนธรรม ศาสนา คุณภาพชีวิต เป็นต้น เมื่อมีอุดมการณ์หรือใจในการทำงานที่ดีแล้ว ต้องยึดถือระเบียบ กฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับภารกิจ อำนาจหน้าที่ของเราด้วย ต้องหมั่นทบทวน ศึกษา อยู่เสมอ เพราะเมื่อมีทั้งสองสิ่งนี้คู่กันจะทำให้เกิดวินัยในการทำงาน ซึ่งการทำงานไม่ใช่การทำให้หรือทำแทนพี่น้องประชาชน แต่ต้องกระตุ้นสร้างให้เกิดความร่วมมือที่มาจากกำลังของคนในชุมชนโดยแท้จริง

อย่างไรก็ตาม ฝากให้นักพัฒนาชุมชนทุกท่านจงภูมิใจในภารกิจหน้าที่ของตนเอง สิ่งสำคัญที่ก่อให้เกิดความสำเร็จในทุกสิ่งอยู่ที่ตัวเรา ทัศนคติที่ดีจะเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงใจ ชักนำไปสู่ความสำเร็จ ความสุขที่แท้จริงคือเราสามารถช่วยเหลือ สร้างความสุขให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นเสน่ห์ของงานพัฒนาชุมชน และขออัญเชิญคำขวัญเนื่องในวันพัฒนา ซึ่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าพระราชทาน ว่า พัฒนาคือสร้างสรรค์ มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติตัวปฏิบัติหน้าที่ของนักพัฒนา ร่วมมือร่วมใจในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้บังเกิดเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน.