รัฐบาลพยายามกระตุ้นให้คนออกไปเที่ยวเยอะๆในช่วงปลายปีซึ่งมีวันหยุดยาวค่อนข้างมาก เพื่อให้เม็ดเงินกระจาย เศรษฐกิจหมุนเวียน แถมช่วงนี้ไปเที่ยวไหนก็ประหยัดค่าใช้จ่ายได้พอสมควร เพราะรัฐบาลมี โครงการเราเที่ยวด้วยกัน โครงการกำลังใจ และค่าใช้จ่ายจากการท่องเที่ยวยังนำไปลดหย่อนภาษีใน โครงการช้อปดีมีคืน ได้ด้วย
วันเสาร์สบายๆวันนี้ขอชวนทุกท่านไปเที่ยวงาน “สีสันแห่งดอยตุง” ครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 4 ธ.ค. 63 ถึงวันที่ 31 ม.ค. 64 เวลา 08.00-18.00 น. งานมีเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ที่โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเชียงราย ที่ต้องประชาสัมพันธ์กันตั้งแต่เนิ่นๆเพื่อจะได้จองที่พัก ตั๋วเครื่องบิน และจัดโปรแกรมเที่ยวไว้ล่วงหน้า ช่วงปลายปีคนนิยมไปเที่ยวเหนือโต้ลมหนาว ถ้าจองช้าห้องพักอาจเต็ม ตั๋วเครื่องบินก็แพง
งานปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “บ้านแห่งความรัก” เพื่อเน้นย้ำให้ทุกคนช่วยกัน ส่งต่อความรักและกำลังใจ ให้คนไทยและคนทั่วโลกที่เผชิญปัญหาวิกฤตการณ์ต่างๆอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคโควิดและปัญหาสิ่งแวดล้อม เพื่อจะได้เริ่มต้นปีใหม่อย่างสดใสและมีพลัง
งานสีสันแห่งดอยตุงถือเป็นถนนคนเดินสายวัฒนธรรมที่อยู่สูงที่สุดในประเทศไทย เป็นงานที่เปิดโอกาสให้ ชาวบ้านในชุมชนดอยตุง ได้พัฒนาศักยภาพ และเรียนรู้กระบวนการในการเป็นเจ้าของธุรกิจชุมชน ให้สามารถพึ่งตัวเองได้ ตลอดจนอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีชนเผ่าทั้ง 6 บนดอยตุงได้แก่ อาข่า ลาหู่ ไทใหญ่ ไทลื้อ ไทลัวะ และ จีนยูนนาน โดยส่งผ่านวัฒนธรรมอันหลากหลายเหล่านี้สู่นักท่องเที่ยว ผ่านกิจกรรมต่างๆอาทิ การแสดงและการละเล่นชนเผ่าที่หาดูยาก อาหารชนเผ่า ตลอดจนสินค้างานมือ
...
ภายในงานแบ่งเป็นโซนต่างๆ มีไฮไลต์ เช่น โซนอาหาร ลิ้มลองเมนูชนเผ่าที่รับประทานเฉพาะฤดูหนาว อาทิ ซุปไก่ดำของชาวลัวะ ยำข้าวฟืนของชาวไทใหญ่ ข้าวปุ๊กปิ้งโรยน้ำตาลอ้อย โซนหัตถกรรม มีสินค้าแฟชั่นงานมือชาวไทยภูเขาแบบดั้งเดิมและแบบประยุกต์ รวมถึงงานหัตถกรรมดีไซน์มีเอกลักษณ์และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของร้านดอยตุงไลฟ์สไตล์ ส่วนสาย DIY ก็มีซุ้มสอนปั้นเซรามิก สอนทำโปสต์การ์ดจากใบไม้และดอกไม้แห้งที่ร่วงหล่นในสวนแม่ฟ้าหลวง
หรือถ้าอยากมีกิจกรรมเรียกเหงื่อก็ไปที่ โซนกิจกรรม มีให้เล่นทั้ง DoiTung Tree Top Walk สะพานเรือนยอดไม้ดอยตุงความสูงจากพื้นดินกว่า 30 เมตร หรือการละเล่นท้องถิ่นอย่างฟอร์มูล่าดอย เดินไม้ต่อขา หากเป็นสายโซเชียลต้องเช็กอินที่ ซุ้มทางเข้าใบโคลเวอร์ (Clover Leaf) แห่งความรัก สื่อถึงการต้อนรับแสนอบอุ่นที่อยากให้ทุกคนได้รับความโชคดี และแวะถ่ายรูปกับ “ครอบครัวตัวโต” มาสคอตสัตว์แห่งความโชคดีตามตำนานของชาวไทใหญ่ ตั้งอยู่ท่ามกลางดอกไม้ในสวนแม่ฟ้าหลวง
วัตถุประสงค์ที่ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดงานสีสันแห่งดอยตุงขึ้นทุกปี ไม่เพียงต้องการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว แต่ยัง เสริมสร้างกระบวนการเรียนรู้ และความสามารถในการเป็นเจ้าของธุรกิจชุมชนในด้านต่างๆ ซึ่งก่อนลงสนามจริงทางมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯได้ส่งผู้เชี่ยวชาญไปดูแลให้ความรู้ด้านการบริหารจัดการ การตลาด การสร้างแบรนด์เช่น ชาอู่หลง ถั่วดาวอินคา ธัญพืชต่างๆทั้งแบบคั่วและแปรรูปเป็นขนมอัดแท่ง หรือน้ำพริกผงสูตรอาข่า ฯลฯ
ที่สำคัญอีกอย่างคือ การปลูกจิตสำนึกอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ให้ชุมชนดอยตุงและผู้เข้าร่วมงานตระหนักถึงการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า ลดการสร้างขยะพลาสติก และช่วยกันแยกขยะเพื่อกำจัดให้ถูกวิธี ไม่ให้ขยะไปสู่บ่อฝังกลบ (Zero Waste to Landfill) ทุกเส้นทางและทุกกิจกรรมจะมีการ ชดเชยคาร์บอนเครดิต เพื่อให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมต่างๆภายในงานเป็นศูนย์ (Carbon Neutral Event) เพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบในการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า และลดการสร้างผลกระทบในทางลบต่อสิ่งแวดล้อม
ส่งท้ายบทความนี้ ขอย้ำเตือนกันอีกครั้ง ไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหน อย่าลืมหมั่นล้างมือ สวมแมสก์ และเช็กอินในแพลตฟอร์มไทยชนะทุกครั้ง เผื่อมีคนติดโควิดแล้ว ศบค.ชี้แจงไม่เคลียร์ สอบหาต้นสายปลายเหตุไม่เจอ เราจะได้ไม่ต้องตื่นตระหนกมาก.
ลมกรด
(ภาพประกอบจาก https://www.facebook.com/pg/DoiTungClub/posts/)