- 48 ชั่วโมง ส.ส.-ส.ว.ประชุมเห็นชอบเกมรื้อ "รัฐธรรมนูญ ปี 60"
- ข้อเรียกร้องนักเรียน-นักศึกษา วัดความจริงใจ "นายกฯ" เดิมพันความเสี่ยง
- ปิดสวิตช์ ส.ว.ตัดอำนาจโหวตนายกฯ จะจบข้าง "ใน" หรือ "นอก" สภา
มหกรรม "ดีเดย์" ชุมนุมใหญ่ของเครือข่ายนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชน ที่มีแนวร่วมหลายกลุ่ม ตามสิทธิเสรีภาพ "ชู 3 ข้อเรียกร้อง 2 จุดยืน 1 ความฝัน" ต่อรัฐบาล เมื่อวันที่ 19-20 ก.ย.ที่ผ่านมา จับสัญญาณได้ว่า แค่ฉากเผาหัว "เช็กกำลัง" ไม่เหิมปักหลักถึงขั้น "แตกหัก" ก่อนแผน "รุกฆาต" ต.ค.นี้
จุดเดิมพันสำคัญ คือ ข้อเรียกร้องแก้ไข "รัฐธรรมนูญ" ที่มีคิวโหมโรงขั้นรับหลักการ 23-24 ก.ย.นี้ โดยม็อบนัดปักหลักหน้ารัฐสภา ในวันที่ 24 ก.ย. ในห้วงเวลาพิจารณาแก้ไข รธน. โดยคราวนี้สลับคิวเป็นทีมของ "ประชาชนปลดแอก" เล่นบทนำถือธงบ้าง ย้ำข้อเรียกร้องตรงกันของ "ม็อบฟันน้ำนม" ชัดๆ 2 ข้อคือ "รัฐบาลต้องลาออก-ตั้ง ส.ส.ร. ร่าง รธน.ใหม่" หากผู้ใหญ่เล่นเกม "ลวง" เด็ก "พลิกลิ้น" ขึ้นมา ทำข้อเรียกร้อง "ฟาวล์" อาจเป็นชนวนทำม็อบไต่ระดับ ลากเกมเดิมพันไปสับสวิตช์ "นอกสภา" งานนี้วุ่นแน่
...
จุดเดิมพัน ทิ้งบอมบ์ระลอก 2 (สุกงอม) ไต่ระดับ 3 "รุกไล่"
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการพิเศษพรรคเพื่อไทย (พท.) ได้กล่าวถึงมุมมองด้านความมั่นคง ในฐานะที่เคยดำรงตำแหน่งเลขาฯ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ถึงข้อเรียกร้องของถึงกลุ่มผู้ชุมนุม 19 ก.ย.ที่ผ่านมา ในการแก้ไข รธน. ว่า สัปดาห์นี้จะมีการประชุมร่วม 2 สภา ในการแก้ไข รธน. หาก ส.ว.ไม่ยอมถอยโอนอ่อนตามข้อเสนอม็อบ อย่างน้อยก็ "ปิดสวิตช์ ส.ว. ตัดอำนาจโหวตนายกฯ" ไม่เช่นนั้นจะเกิดการ "ชุมนุมใหญ่" และ "ชุมนุมย่อย" ทั่วประเทศแน่นอน แม้ตามขั้นตอนกระบวนการแก้ไข รธน.จะใช้เวลานาน แต่ ส.ว.ก็ต้อง "ห้าม" ยุ่งเกี่ยวกับการโหวตนายกฯ ทันที เพราะระหว่างการแก้ รธน.อาจเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง เช่น นายกฯ ชิงลาออกหลังถูกกดดัน เปิดช่องเลือกนายกฯ คนใหม่ตาม รธน.ปี 60 โหวตตามนายกฯ ของแต่ละพรรคหรือคนนอก ส.ส.ต้องผนึกกำลังทั้งหมด เพื่อให้ "จบ" ที่สภา
"รัฐบาลแห่งชาติ รัฐประหาร มวลชนไม่ขานรับ แค่นี้บรรยากาศก็ไม่เอื้อต่อการค้าการลงทุนแล้ว หากเกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้นอีกยิ่งไปกันใหญ่ พล.อ.ประยุทธ์ ไปต่อไม่ได้แล้ว นัยการเมืองต้องพ้นจากตำแหน่งสถานเดียว หากยุบสภาโดยใช้กติกาเก่า เลือกตั้งใหม่เท่ากับ "ไม่เสรี" และ "ไม่เป็นธรรม" เหมือนเดิม ถ้าเปิดช่องให้ พล.อ.อประยุทธ์ กลับมาอีก ปัญหาการเมืองมันไม่จบ!!!"
ในจังหวะรัฐบาลถอยหลัง นายกฯ ควร "ลาออก" จากตำแหน่ง เพื่อเปิดทางให้คนที่เหมาะสมเข้ามาทำหน้าที่แทน เพื่อเปลี่ยนผ่านการบริหารประเทศ และจัดการเลือกตั้งให้เสรีและเป็นธรรม อย่างน้อยแก้รัฐธรรมนูญก่อนตั้ง ส.ส.ร. เพื่อแก้ รธน.ให้เป็นประชาธิปไตย ภายใต้เงื่อนไข พล.อ.ประยุทธ์ ต้องลาออก หากยังไม่ออกเปิดสมัยประชุมสภาครั้งต่อไป ฝ่ายค้านอาจยื่นญัติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล หากนายกฯ ไม่ชิง "ยุบสภา" ในจังหวะนี้ มีโอกาสสูงที่จะถูกพรรคร่วม "หัก" ในวินาทีสุดท้าย จนตั้งตัวไม่ทัน ซึ่งในอดีตเคยเกิดขึ้นมาแล้ว
"วิกฤติการเมืองควรแก้ด้วยการเมือง อย่าใช้วิธีรัฐประหารฉีก รธน. ยิ่งวันนี้ภาคประชาชน ขบวนการนักศึกษาเข้มแข็ง เป็นโอกาสแก้ รธน.เพื่อให้ได้กติกาฉบับประชาชน ถือเป็นทางออกที่ดีที่สุดของประเทศ"
"คลี่คลาย" หรือ "เลวร้าย" คำตอบอยู่ที่ "บิ๊กตู่"
อีก 48 ชั่วโมงนับจากนี้ 2 สภา ทั้ง "ส.ส.-ส.ว." จะต้องหารือและตัดสินใจร่วมกันว่า จะปล่อยเห็นชอบแก้ รธน.หรือไม่ และโหวตเห็นชอบญัตติแก้ของ "ใคร" ? ซึ่งมีทั้งหมด 6 ญัตติ คือ 1. ญัตติแก้ไข รธน.ของ "เพื่อไทย" ชงแก้ ม.256 ให้ประชาชนเลือก ส.ส.ร.ยกร่างฯใหม่ ใน 120 วัน 2. ญัตติแก้ไข รธน. "พรรคร่วมรัฐบาล" ชงแก้ ม.256 ให้ ส.ส.ร.ยกร่างฯ ใน 240 วัน ส่วนที่เหลืออีก 4 ญัตติ เป็นของ "พรรคร่วมฝ่ายค้าน" ขอแก้ รธน.เป็นรายมาตรา เพิ่มอีก 4 ประเด็น น่าจับตาคือ 4 ญัตติหลังนี่แหละ ส่อเค้าโดนคว่ำ ไม่ผ่านด่านอรหันต์ 250 ส.ว. โดยเฉพาะปมร้อน ม.272 "ปิดสวิตช์ ส.ว."
...
แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า เสียง ส.ส.ส่วนใหญ่ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล จะลงมติเห็นชอบให้แก้ไข รธน. แต่ปัญหามันติดอยู่ที่เสียง ส.ว.ต้องใช้ไฟเขียวถึง 1 ใน 3 ลอง "วัดใจ" นายกฯ ดู? เพราะแต่งตั้ง ส.ว.ทั้งสภามากับมือ เชื่อถ้า "จริงใจ" ส่งสัญญาณ "OK" ส.ว.ลากตั้งทั้งหลาย ก็เปิดทางเห็นชอบแก้ไขอย่างสะดวก แต่ถ้า "ไม่" ทุกอย่างก็จบ !!!
ดังนั้นหาก นายกฯ "ไม่จริงใจ" ยอมผ่อนปรน ก็ "สุ่มเสี่ยง" โกลาหล กลายเป็นเงื่อนไขเร้ากระแส โหมม็อบเคลื่อนไหว ช่วงเดือน ต.ค.ตามแผนไต่ระดับเปิดเกมรุก ล้อวันประวัติศาสตร์ "6 และ 14 " กระตุกอารมณ์ "หลอน" พวกกุมอำนาจ พาเสียวสันหลัง!!!