• สัญญาณเตือนป่วย "วัยทองก่อนวัยอันควร"
  • ผู้ป่วยวัยทองก่อนวัยอันควร 75-90% ยังไม่ทราบสาเหตุ
  • ประจำเดือนมาผิดปกติ ควรต้องรีบปรึกษาแพทย์

"วัยทอง" โดยเฉลี่ยของผู้หญิงไทย ต้องเจอเมื่อร่างกายเริ่มก้าวย่างเข้าสู่อายุประมาณ 50 ซึ่งแต่ละคนจะก้าวเข้าสู่วัยทองช้าเร็วแตกต่างกันไป หากใครเจอวัยทองก่อนอายุ 40 ปี ถือว่ามีความผิดปกติ เรียกว่า "วัยทองก่อนวัยอันควร"

พญ.กรพินธุ์ รัตนสัจธรรม หรือ "หมอออ" สูติแพทย์เฉพาะทางมะเร็งนรีเวช และการผ่าตัดส่องกล้อง ได้เปิดเผยข้อมูลเรื่อง "วัยทองก่อนวัยอันควร" ให้ "กนก" ฟังว่า เกิดจากฟองไข่ในรังไข่สลายเร็วกว่าปกติ หรือมีไข่ในฟองไข่ แต่ไข่นั้นไม่สามารถทำงานในการสร้างฮอร์โมนได้ โดยปกติแล้วอาการวัยทองจะเริ่มแสดงในเพศหญิงวัย 45-50 ปี แต่วัยทองก่อนวัยอันควรก็อาจเกิดขึ้นได้ในผู้หญิงอายุต่ำกว่า 30 ปี แต่บางคนก็เกี่ยวกับกรรมพันธุ์ ถ้าคนในครอบครัวประจำเดือนหมดเร็ว ก็มีสิทธิ์ที่จะหมดเร็วตามไปด้วย

สำหรับผู้หญิงที่มีประจำเดือนช่วง 3 ปีแรกในชีวิต อาจจะมาไม่ปกติ แต่พอเกิน 3 ปีแรก ประจำเดือนควรต้องมาปกติแล้ว แต่ถ้าหายไปนานเกิน 3 เดือน หรือรอบเดือนเราห่างเกิน 35 วันบ่อยๆ หรือ 1 ปี และประจำเดือนมาน้อยกว่า 9 ครั้ง จำเป็นต้องมาตรวจความผิดปกติ 

...

สาเหตุป่วยวัยทองก่อนวัยอันควร

ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ 75-90% ยังไม่ทราบสาเหตุ แต่สาเหตุที่เจอบ่อยที่สุดคือ หลายคนเคยโดนฉายแสงรังสีทำลายรังไข่ เช่น ป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูก และเคยได้รับยาเคมีบำบัด หรือเคยได้รับยาที่มีผลต่อรังไข่ ทำให้รังไข่เสื่อมสลาย รวมทั้งติดเชื้อไวรัส CMV ที่ส่งผลทำให้รังไข่อักเสบ และสลายเร็ว หรือ มีโรคประจำตัว เช่น แพ้ภูมิตัวเอง, ภูมิคุ้มกันผิดปกติ และโคโมโซมไม่ปกติ

จะรู้ได้ยังไงว่า เป็นวัยทองก่อนวัยอันควร

เมื่อคนไข้มาหาหมอด้วยอาการประจำเดือนไม่มา หมอจะทำการตรวจการตั้งครรภ์ก่อนเป็นอันดับแรก ทุกคนที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ต้องชัวร์ก่อนว่า ไม่ท้อง เมื่อตรวจแล้วว่าไม่ท้อง หมอก็จะเริ่มตรวจอัลตราซาวนด์ถ้ามีลักษณะมดลูกเหี่ยว โพรงมดลูกบาง รังไข่เหี่ยว ก็จะเข้าข่ายป่วยโรคนี้ อันดับต่อไป หมอจะเจาะเลือดตรวจเช็กฮอร์โมน ถ้าฮอร์โมนผู้หญิงต่ำ แต่ฮอร์โมนต่อมใต้สมองปกติ แปลว่ามีปัญหาที่รังไข่ หมอก็จะวินิจฉัยว่าเป็นวัยทองก่อนวัยอันควร

สำหรับสัญญาณเตือน "วัยทองก่อนวัยอันควร" คือ ประจำเดือนไม่มา มีอาการร้อนวูบวาบ เหมือนคนเป็นวัยทอง รวมทั้งนอนไม่หลับ อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย บางคนจะมีอาการช่องคลอดแห้ง และความต้องการทางเพศลดลงด้วย

คนไข้ป่วยโรควัยทองก่อนวัยอันควร

เคสคนไข้ที่หมอพบ เป็นหญิงสาวอายุ 28 ปี มาหาหมอ พร้อมเล่าอาการว่า หลายปีมานี้ ตั้งแต่น้ำหนักขึ้นมา 12 โล ประจำเดือนไม่มาเลย ต้องกินยาคุมถึงจะมา จากนั้นหมอได้ทำการตรวจอัลตราซาวนด์ทางช่องคลอด พบว่า มดลูกเล็ก โพรงบาง ไข่เหี่ยว และมองแทบไม่เห็นฟองไข่ อาการเป็นเหมือนการซาวนด์คนวันทอง จึงเจาะเลือด เช็กฮอร์โมนแบบละเอียด ผลฮอร์โมนปรากฏว่า เป็นวัยทองในอายุ 28 ปี

สำหรับผลกระทบของผู้ที่ป่วยวัยทองก่อนวัยอันควร คือ กระดูกพรุน เนื่องจากเราไม่มีฮอร์โมนเอสโตเจนที่สร้างจากรังไข่ และมีโอกาสที่จะป่วยเป็นโรคหัวใจเร็ว รวมทั้งมีลูกได้ยาก แต่ถ้าเจอว่าป่วยเป็นวัยทองตั้งแต่อายุน้อยๆ ต้องรักษาด้วยการกินฮอร์โมนทดแทน แล้วตรวจหาโรคที่ซ้อนอยู่ เพราะมันมีบางโรคที่ต้องรักษาเพื่อให้ประจำเดือนมาปกติ

นอกจากนี้ "หมอออ" ยังเล่าต่ออีกว่า ปัจจุบันคนไข้ส่วนใหญ่ที่มาหาหมอ จะพบปัญหา 2 อย่าง คือ ประจำเดือนมาผิดปกติ กับ ปวดท้องประจำเดือน ซึ่งคนปกติประจำเดือนจะมาทุกเดือน เดือนละ 3-7 วัน ระยะห่างระหว่างประจำเดือนที่มาวันแรกของเดือนแรกกับเดือนถัดไปต้องห่างกันเร็วที่สุด 21 วัน ห่างที่สุดได้ 35 วัน แต่ถ้ามันมาถี่กว่านี้ มาช้ากว่านี้ หรือบางทีมันไม่มาเลย หรือมากะปริบกะปรอย ไหลน้อยจนไม่ต้องใส่ผ้าอนามัย แบบนี้เรียกว่าประจำเดือนมาไม่ปกติ 

...

หากพบอาการแบบนี้ควรต้องปรึกษาแพทย์ เนื่องจากมีความเป็นไปได้ตั้งแต่ไม่ได้เป็นอะไร อาจแค่ฮอร์โมนผิดปกติเฉยๆ เช่น ความเครียด, อ้วนเร็ว, ผอมเร็ว, นอนไม่พอ จนส่งผลให้ประจำเดือนมาไม่ปกติได้ แต่โอกาสที่ร้ายแรงสุดคือ "มะเร็งโพรงมดลูก" และเนื้องอกต่อมใต้สมอง อาจทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ซึ่งถ้าไม่รักษา อาจทำให้เสียชีวิตได้

ถ้าประจำเดือนมาไม่ปกติ ต้องดูว่าสาเหตุมาจากอะไร เพราะการที่ผู้หญิงจะมีประจำเดือนปกติได้ จะต้องมีสมองส่วน Hypothalamus ต่อมใต้สมอง และก็ต้องมีมดลูกและรังไข่ที่ปกติ ฉะนั้นคนที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ คือสามารถมีปัญหาได้ตั้งแต่ในสมองจนถึงภายใน ซึ่งจะรู้ว่ามีปัญหาตรงไหน ก็ต้องทำการตรวจภายใน, อัลตราซาวนด์ และตรวจเลือดดูค่าฮอร์โมน เมื่อพบปัญหาตรงไหนก็รักษาตรงนั้น

อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงไม่ควรปวดท้องน้อย ถ้าปวดท้องน้อยต้องหาสาเหตุ เนื่องจากอาจไม่ใช่โรคร้ายแรง อาจเป็นเพียงการอักเสบธรรมดา หรือปวดท้องประจำเดือนที่เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ถ้าเป็นที่รังไข่ ก็จะเป็นช็อกโกแลตซีสต์ ถ้าเป็นที่มดลูก ก็จะเป็นพังผืดที่มดลูก ซึ่งเป็นโรคที่เจอบ่อยมากในผู้หญิงที่ปวดท้องประจำเดือนถึง 40%

...

ส่วนเรื่องที่สาวๆ ส่วนใหญ่มักละเลย คือ เรื่องประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือประจำเดือนหายไปเกิน 3 เดือน บางคนคิดว่าไม่เป็นไร ซึ่งจริงๆแล้ว ถ้าเป็นบ่อย อาจมาจากภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรัง จนส่งผลให้โพรงมดลูกหนาขึ้น พอหนามากๆ จะเสี่ยงที่จะกลายเป็น "มะเร็งโพรงมดลูก" ได้.

ผู้เขียน : กนก โฆษกสุขภาพ

ขอบคุณ : พญ.กรพินธุ์ รัตนสัจธรรม เจ้าของเพจ Doctor ออ , Woman expert

กราฟิก : Supassara Traiyansuwan