แรดขาว...เป็นสัตว์บกใหญ่เป็นอันสองของโลกรองจากช้าง มีความยาวลำตัวได้ถึง 3.6-5 ม.ความสูงของไหล่ 1.6-2 ม. หนัก 2.3-3.6 ตัน มีถิ่นกำเนิดทางใต้ของทวีปแอฟริกา ตั้งแต่ซูลูแลนด์ถึงอุทยานแห่งชาติครูเกอร์ และยังพบได้ในซูดานภาคใต้ ยูกันดา และแถบใกล้ๆคองโก
ปกติใช้ชีวิตอยู่ในทุ่งสะวันนา แม้สายตาจะไม่ดี แต่มีหูและจมูกดีมาก จึงรับรู้ถึงอันตรายได้ตั้งแต่ระยะไกล โดยแรดมี “นอ” อยู่ที่บนหัวไว้ใช้ต่อสู้ และป้องกันตัว
นอของแรดขาว จึงกลายมาเป็นอันตรายอย่างใหญ่หลวงต่อเผ่าพันธุ์ตัวเอง เพราะชาวจีนและเวียดนาม เชื่อว่าจะช่วยลดไข้ตัวร้อนได้ และอยู่ในตำรับยาจีนโบราณหลายขนาน ทำให้แรดทั่วโลกถูกคุกคามอย่างหนักเพื่อ “ล่าตัดนอ” ส่งขายตลาดจีนที่รับซื้อไม่อั้น
น.สพ.เกษตร สุเตชะ จากมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ บอกว่า เดิมทีประเทศไทยเคยเป็นที่อยู่อาศัยของแรด 2 สายพันธุ์ แรดชวา กับแรดสุมาตรา หรือกระซู่ แต่ทั้งสองชนิดถูกประกาศอย่างเป็นทางการว่า “สูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติ” มานานกว่า 6 ทศวรรษ สวนสัตว์บ้านเราจึงนำแรดขาวมาเลี้ยงไว้
เมื่อแรดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เริ่มสูญพันธุ์ นักล่าได้เบนเข็มไปที่อินเดีย และภูมิภาคเอเชียใต้ ทำให้ประชากรแรดอินเดียลดลงฮวบฮาบ และลดลงเรื่อยๆ
จนสุดท้ายเป้าหมายการล่าแรดขาว คือ ในทวีปแอฟริกา จึงเกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์แรดกันอย่างล้างผลาญ เพื่อตัดนอขายประเทศจีน จนแรดสายพันธุ์แอฟริกาลดลงจนใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง
แต่การล่ายังไม่หยุด ถึงขั้นต้องจ้างเจ้าหน้าที่มาเฝ้าแรดเป็นรายตัว เพราะจากจำนวนหลักหมื่นตัว วันนี้เหลือเพียงหลักร้อย.