ที่สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) นายจรูญ ชูลาภ รักษาการประธานคณะกรรมการ สมศ. เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ ได้ให้ข้อเสนอแนะ สมศ.ให้ชะลอการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ (พ.ศ.2559-2563) ออกไปก่อน ซึ่งในระหว่างที่มีการหยุดการประเมินนั้น สมศ.ก็ได้มีการพัฒนาปรับปรุงเกณฑ์การประเมินที่สะท้อนผลการจัดการศึกษาของสถานศึกษา บอกจุดเด่นและจุดที่ควรพัฒนาที่ชัดเจน ประหยัดเวลา อาศัยระบบเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วย และไม่เป็นภาระของสถานศึกษา ทั้งนี้ตามกฎหมายกำหนดให้สถานศึกษาต้องเข้ารับการประเมินคุณภาพภายนอกอย่างน้อย 5 ปีต่อ 1 ครั้ง ดังนั้น เมื่อ สมศ.พัฒนาเกณฑ์ใหม่ได้แล้ว ก็จะเริ่มการประเมินในเดือน ธ.ค.2563 โดยสถานศึกษากลุ่มแรกที่จะเข้ารับการประเมินคือ สถานศึกษาที่ส่งรายงานการประเมินตนเอง (SAR) มาให้ สมศ. แล้ว จำนวน 6,653 แห่ง และ สมศ.ได้ทำการวิเคราะห์ SAR เบื้องต้นแล้ว 3,873 แห่ง คาดว่า สมศ.จะสามารถประเมินโรงเรียนได้ปีละ 10,000 แห่ง และใช้เวลาประเมินสถานศึกษาที่จัดการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี ที่มีอยู่ 61,000 แห่ง ได้ครบภายใน 5 ปี

“สิ่งที่อยากฝากถึงสถานศึกษาทุกแห่งคือ สมศ. มีเจตนาที่จะเข้าไปช่วยเหลือสถานศึกษาให้เกิดการพัฒนา ให้มีคุณภาพที่ใกล้เคียงกัน โดยชี้แนะและเสนอต้นสังกัดว่าควรช่วยเหลือโรงเรียนด้านใดบ้าง” นายจรูญกล่าว

ด้าน ดร.นันทา หงวนตัด รักษาการ ผอ.สมศ. กล่าวว่า สมศ.ได้ปรับปรุงเกณฑ์การประเมินตามนโยบายของคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ และให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เช่น การบริหารจัดการการเรียนการสอน ซึ่งจะต้องมีการเว้นระยะห่างทางสังคม ขณะเดียวกันจะลดภาระสถานศึกษา โดยลดจำนวนวันลงพื้นที่ของผู้ประเมินจาก 3 วัน เหลือ 1 วัน ลดจำนวนผู้ประเมินในโรงเรียนขนาดเล็กเหลือ 1 คน ลดภาระด้านเอกสารโดยพัฒนาแอปพลิเคชันให้สถานศึกษาส่งข้อมูลผ่านแอปพลิเคชัน รวมทั้งพัฒนาระบบออนไลน์ให้ สมศ.และต้นสังกัดมีฐานข้อมูลเดียวกัน การเขียนรายงานการประเมินคุณภาพภายนอกฉบับสมบูรณ์ ก็จะตัดข้อมูลที่ซ้ำซ้อนออก.

...