ลูกไม่ผิด ติดคุกไม่ได้ เริ่มต้นหลักคิดอย่างนี้มันก็เลยบานปลายกลายเป็นมหากาพย์ที่สะท้อนภาพกระบวนการยุติธรรมอย่างล่อนจ้อน แน่ล่ะ...ความเป็น “พ่อ-แม่” ย่อมรักลูกดั่งแก้วตาดวงใจ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิดเรื่องถูก เพียงแต่ในความรักนั้นต้องมองถึงเหตุและปัจจัยอื่นๆมาเป็นองค์ประกอบด้วย

แต่ถ้าคิดเข้าข้างตัวเองด้วยคิดว่ามีศักยภาพ ฐานะทางสังคมและมองลอดช่องจนเห็นว่าในกระบวนการยุติธรรมไทยนั้นมีช่องโหว่ช่องว่างที่จะเข้าไปขยับปรับเปลี่ยนได้

อีกทั้งด้วยคิดจากความรู้สึกที่เริ่มต้นด้วยความรักลูก แต่ยังคิดถึงตัวเองที่จะต้องเอาชนะเพื่อรักษาเกียรติยศชื่อเสียงและวงศ์ตระกูล

พูดง่ายๆก็คือ “พ่อ–แม่” ยังรักตัวเองอีกด้วย

ความจริงเรื่องนี้ต้องโทษตัวเองด้วยว่าการเลี้ยงดู อบรมบ่มสอนลูกนั้นให้อะไรกับเขามากน้อยแค่ไหน

หากคิดแต่หาเงินให้ได้มากจนจมกับเวลาไปกับเรื่องนี้ เท่ากับละเลยกับสิ่งที่รักและหวงแหนย่อมทำให้เกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดขึ้นมาได้

อย่างที่มีการเปรียบเปรย “พ่อ-แม่” รังแกฉัน...ทำนองนั้น

ที่ว่ามานั้นก็เพื่อหวังว่าจะเป็นบทเรียนสำคัญที่ทุกครอบครัวจะต้องคิดและตระหนักให้ดีในความเป็นจริงที่เกิดขึ้น

กำลังพูดถึงเรื่องราวสนั่นเมืองว่าด้วยกรณี “บอส อยู่วิทยา” ที่สังคมกำลังรุมถล่มกันอย่างหนัก เพราะเกี่ยวพันกับกระบวนการยุติธรรมในหลายมิติ

“คุกมีไว้ขังคนจน”...

เหตุที่เกิดขึ้นครั้งนี้ได้สะท้อนภาพได้อย่างชัดเจนลองลำดับเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนมาถึงปัจจุบันนั่นแหละคือคำตอบ

เริ่มจากตำรวจจนถึงอัยการที่สุดด้วยคำสั่งไม่ฟ้องว่าเจ้าหน้าที่รัฐได้ทำอะไรล้วนแสดงให้เห็นว่าทุกอย่างได้ดำเนินการไปอย่างเป็นรูปขบวน

...

คดีนี้กินเวลามายาวนานพอสมควรจึงต้องผ่านขั้นตอน ผ่านเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องมาหลายชุด หลายคณะ

ยังมีการเมืองเข้ามาร่วมสังฆกรรมด้วย

เป็นแบบ “งูกินหาง”...กินกลางตลอดตัว

ตัวละครจึงมากหน้าหลายตาที่เข้ามามีส่วนร่วมช่วยกันเล่นคนละบทสองบท เพื่อนำไปสู่การให้พ้นผิด

หนักหนาที่สุดน่าจะเป็น “อัยการ” ในฐานะทนายแผ่นดินที่จะต้องทำหน้าที่ผดุงความยุติธรรมเพื่อประชาชน

คนคนเดียวที่ชี้ขาดคดีความจนเกิดความแปรผันขัดหูขัดตาประชาชนถึง 3 คดี ทำไมถึงเป็นไปอย่างนี้ได้อย่างไร

อย่างตำรวจนั้นก็รู้กันอยู่เต็มอกแทนที่จะเป็นที่พึ่งของประชาชนกลับตรงกันข้ามและเป็นปัญหาของชาติจนเกิดเสียงเรียกร้องให้มีการปฏิรูป

แต่ทำไม่ได้ไม่กล้าแตะต้อง เพราะต้องการเอาเป็นพวก

อย่างคดีนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ซึ่งจะเกษียณอายุราชการในปีนี้บอกว่าไม่รู้เรื่อง เพราะไม่เชี่ยวชาญกฎหมาย และมอบอำนาจให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการไป

“เด้งเชือก”...หนีความจริงหนีความรับผิดชอบกันหมด

บอกตรงๆเลยว่ารัฐบาลชุดนี้ก็ไม่มีทางคืนความยุติธรรมให้สังคมได้!


“สายล่อฟ้า”