(ภาพ : พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา)

“พิจารณาทุกเรื่องราวอย่างมีสติ ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงมากมายรอบตัว” กากบาท รายงานตัวเข้าเวรประจำวันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ.2563

เป็นข่าวใหญ่อีกคดีที่อัยการสูงสุดและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ผู้ต้องหาขับรถหรูชนรถ จยย.ตำรวจชั้นประทวนเสียชีวิตในเครื่องแบบ เหตุเกิดวันที่ 3 ก.ย.2555...คดียืดเยื้อดึงนานกว่า 8 ปี...จนถูกตั้งข้อสงสัยกระบวนการยุติธรรมตั้งแต่เริ่มทำคดี...มีข่าวพยายามเปลี่ยนตัวคนขับแทน ข้อหาที่แจ้งผู้ต้องหา และพนักงานสอบสวนปล่อยคดีบางข้อหาขาดอายุความ

สุดท้ายอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา สำนักงานตำรวจ แห่งชาติไม่แย้ง ทำให้คดีนี้ถึงที่สุด

กระแสสังคมทุกช่องทางวิจารณ์หนัก ส่วนใหญ่สิ้นหวังกับกระบวนการยุติธรรม

อีกข่าวที่ใหญ่ไม่แพ้กัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. ที่ถูกคำสั่งให้ไปปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรีกลับมาเป็นรอง ผบ.ตร. ทั้งที่มีคดี “ปล่อยคลิปสนทนา” ที่มี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เป็นคู่กรณี...ทำให้เกิดกระแสเคลื่อนไหวในวงการตำรวจ

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา

...

คนที่ไม่รู้เรื่องราว มองทะลุไปถึงเก้าอี้ ผบ.ตร. พล.ต.อ.วิระชัย ครองอาวุโสสูงสุด มาจังหวะพอดิบพอดี...แต่ในความจริงเป็นสิ่งที่เจ็บปวด ก่อนหน้าคำสั่งย้ายกลับ กองคดีได้แจ้งความคดี “คลิปเสียง” ไว้ที่กองปราบปรามคดี ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสียหายผบ.ตร.เว้นเวลาไม่นานลงนามคำสั่งสำรองราชการ พล.ต.อ.วิระชัย ระบุว่าเป็นการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง มีเจตนาเปิดเผยความลับทางราชการและฝ่าฝืนระเบียบคำสั่งด้วยการให้สัมภาษณ์ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างร้ายแรง...เท่ากับเปิดตำแหน่งรอง ผบ.ตร.ว่างเพิ่ม 1 ตำแหน่ง

โผ “นายพลตำรวจ” คาดว่าต้นเดือน ส.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ก.ต.ช. เสนอชื่อ ผบ.ตร.คนใหม่...ขณะนี้ผู้มีอำนาจ 3 ฝ่ายยื่นชื่อ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบงานความมั่นคง นรต.รุ่น 36 รุ่นเดียวกับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ และเตรียมทหาร รุ่น 20 ของ “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ...สำคัญที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ไว้ใจให้ดูแลงานความมั่นคงและคดีสำคัญ

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข

รอง ผบ.ตร.ที่ว่าง 3 ตำแหน่ง มองเรื่องงาน 2 ตัวหลักคงไม่หนี พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ นรต.รุ่น 38 ที่ทำงานด้านความมั่นคง เป็นมือไม้ของ ผบ.ตร. คดีปราบเด็กแว้นป่วนเมืองและชุมนุมประท้วง พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย นรต.รุ่น 38 ที่รับผิดชอบงาน “จิตอาสา” และปราบปรามนายทุนเงินกู้นอกระบบ

พล.ต.อ.สุวัฒน์ ขยับขึ้น ผบ.ตร. คนที่รับไม้ต่องานความมั่นคงได้คือ พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์

พล.ต.ท.ปิยะ รับงานด้านบริหารที่ถนัด เหลือ 1 ตำแหน่งลุ้นกัน พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ นรต.รุ่น 40 ที่ว่ามีแรงส่งลงมา พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ น้องชาย นายเนวิน ชิดชอบ ผู้มากบารมีพรรคภูมิใจไทย

ผู้ช่วย ผบ.ตร.ที่ว่าง 5 ตำแหน่ง พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ผบช.สยศ. นรต.รุ่น 39 รับผิดชอบงาน “จิตอาสา” และดูแลภาพรวมคดีอาชญากรรม พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส. ลูกชาย พล.ต.อ.เภา สารสิน อดีต อ.ตร. มีผลงานปราบยาเสพติด พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบช.ก. นรต.รุ่น 37 รับผิดชอบงาน “จิตอาสา” และกิจการพิเศษ พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 นรต.รุ่น 36 และดาวรุ่ง พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผบช.ภาค 7 นรต.รุ่น 42 อดีตนายเวร พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. โชว์บริหารงานตำรวจภาค 7

คืออนาคตว่าที่ ผบ.ตร.ที่อยู่ในเงื้อมมือ พล.อ.ประยุทธ์ ที่จะทำให้ตำรวจเดินไปในทิศทางไหน

จะแต่งตั้งวางคนยึดที่ “เส้นสาย” หรือ “ผลงาน”...สุดท้ายคนที่เหนื่อยคือ ผบ.ตร.และรัฐบาล.

กากบาท