ภาพตำรวจทางหลวงในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าได้เห็นการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไปในสายตาประชาชน ตำรวจทางหลวงปรับตัว ทำให้ภาพลักษณ์ของตำรวจทางหลวงดีขึ้น
เปลี่ยนจากเข้มงวดปรับแจก “ใบสั่ง” รถบรรทุก รถหนัก ขยับมาเป็น “จิตอาสา” ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางร่วมกับภาคเอกชนและประชาชนออกมาช่วยเหลือสังคมในพื้นที่รับผิดชอบ ดูแลผู้คนที่ได้รับความเดือดร้อน
ตกทุกข์ได้ยาก
สนับสนุนนโยบายหลักของรัฐบาล ทั้งป้องกันสกัดกั้นการขนลำเลียงยาเสพติด ลักลอบขนของเถื่อน ไม้เถื่อน ผิดกฎหมาย และกรณีตั้งด่านสกัดจับกุมคนร้ายที่หลบหนีคดีข้ามจังหวัด
ใช้ศักยภาพตำรวจทางหลวงนำยา เครื่องมือแพทย์นำส่งโรงพยาบาลเพื่อช่วยเหลือรักษาผู้ป่วย
เหล่านี้เป็นสิ่งที่ พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.ชัช สุกแก้วณรงค์ ผบก.ทล. ปรับรูปแบบการทำงาน ตำรวจทางหลวง เข้ากับสภาพความเป็นจริงในสังคมปัจจุบัน ในสมัยก่อนๆ ถ้าพูดถึงตำรวจทางหลวง ชาวบ้านคงคิดถึงไม่กี่เรื่อง เป็นเรื่องที่ไม่ดีก็เยอะ ทั้งๆที่ตำรวจทางหลวงทำงานช่วยเหลือประชาชนทุกวัน
และทำในหลายเรื่อง
ทุกวันนี้ตำรวจทางหลวงมีภาพลักษณ์ที่ดีออกมาสู่สายตาประชาชนอย่างต่อเนื่อง พล.ต.ต.ชัช ปลูกจิตสำนึกตำรวจทางหลวงในยุคใหม่ วิถีใหม่ Newnomal ได้ดี ปรับเปลี่ยนจากการแจก “ใบสั่ง” และ “รับส่วย”
มาเป็นการสร้างจิตสำนึกในรูปแบบ “จิตอาสา” บำบัดทุกข์ บำรุงสุขพี่น้องคนไทย
ตำรวจทางหลวงถือเป็นหน่วยงานแรกๆที่เดินสายแจกถุงยังชีพให้ประชาชน เคาะประตูแจกถึงหน้าบ้านให้ผู้ที่เดือดร้อนช่วงโควิด-19 เปิดหน่วยบริการสถานที่ราชการเป็นศูนย์เรียนออนไลน์ฟรีแก่นักเรียนที่ขาดแคลน
...
มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ สร้างบ้านพักให้คนพิการ ผู้คนที่เดือดร้อน ช่วยตนเองไม่ได้
เป็นภาพที่ประชาชนไม่เคยเห็น ไม่คิดว่าตำรวจทางหลวงจะทำได้ สร้างความประทับใจให้ชาวบ้านเป็นอย่างมาก งานจราจรที่ตำรวจทางหลวงเอาเทคโนโลยีมาใช้ การไลน์สด การจราจร รายงานสภาพการจราจรแบบเรียลไทม์ทำให้คนเดินทางตัดสินใจ หลีกเลี่ยงหรือหลบไปใช้เดินทางอื่น ทำให้ผู้คนที่เดินทางได้สะดวกยิ่งขึ้น
ไม่เพียงแค่เรื่องงานบริการที่โดดเด่น ตามนโยบายหลักของ ผบก.ทล.
งานอาชญากรรมบนท้องถนน ตำรวจทางหลวง โชว์ผลงานจับกุมเครือข่ายยาเสพติด รับจ้างขนลำเลียงยาเสพติด ผู้ต้องหาตามหมายจับ ของเถื่อนผิดกฎหมายบนถนนหลวงได้อย่างต่อเนื่อง
สิ่งเหล่านี้เป็นคำตอบที่ประชาชนมองว่า ตำรวจทางหลวงเปลี่ยนไปในยุคนี้
ตำรวจทางหลวงเป็นที่พึ่งพาให้ชาวบ้านได้จริง.
“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th