แนวทางบริหารจัดการสินค้าตามพื้นที่ความเหมาะสมทางเศรษฐกิจของภาคตะวันออก สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 6 จังหวัดชลบุรี (สศท.6) ได้ศึกษาสินค้าทางเลือกที่มีศักยภาพในพื้นที่จังหวัดชลบุรี พบว่า “ไผ่” ซึ่งมีพื้นที่ปลูก 700 ไร่ เป็นสินค้าเกษตรทางเลือกที่มีอนาคต
โดยเกษตรกรจังหวัดชลบุรีนิยมปลูกเพื่อทำกิ่งพันธุ์จำหน่าย สามารถให้ผลผลิตปีละประมาณ 3 ล้านกิ่งพันธุ์ สร้างมูลค่าสูงกว่า 45 ล้านบาท โดยเกษตรกรนิยมปลูกสายพันธุ์กิมซุง, ปักกิ่ง, ไผ่รวกหวาน และซางหม่น เนื่องจากเจริญเติบโตเร็ว ทนแล้ง สามารถตัดชำกิ่งขยายพันธุ์ หน่อไม้มีรสชาติดี เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ ให้ผลผลิตตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิต สร้างรายได้ตลอดทั้งปี
พันธุ์กิมซุง มีต้นทุนการผลิตไร่ละ 35,589 บาทต่อปี ให้ผลผลิตเป็นหน่อไม้ไร่ละ 499 กก.ต่อปี ผลผลิตชำต้นพันธุ์ไร่ละ 5,717 กิ่งต่อปี ให้ผลตอบแทนเป็นกำไรไร่ละ 60,183 บาทต่อปี
พันธุ์ปักกิ่ง มีต้นทุนการผลิตไร่ละ 27,201 บาทต่อปี ให้ผลผลิตเป็นหน่อไม้เฉลี่ยไร่ละ 2,220 กก.ต่อปี ผลผลิตชำต้นพันธุ์ไร่ละ 1,180 กิ่งต่อปี ได้กำไรไร่ละ 111,201 บาทต่อปี
พันธุ์ไผ่รวกหวาน มีต้นทุนการผลิตไร่ละ 13,406 บาทต่อปี ให้ผลผลิตเป็นหน่อไม้ไร่ละ 1,470 กก.ต่อปี ผลผลิตชำต้นพันธุ์ไร่ละ 1,682 กิ่งต่อปี ได้กำไรเฉลี่ยไร่ละ 52,543 บาทต่อปี
ส่วนพันธุ์ซางหม่น ลงทุนปีที่ 1 ต้นทุนการผลิตเฉลี่ยไร่ละ 9,989 บาท ขณะนี้อยู่ในช่วงเจริญเติบโต ยังไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้
ด้านการตลาดเกษตรกรจะจำหน่ายผลผลิตใน 2 รูปแบบ คือ กิ่งพันธุ์ ผลผลิต 50% ประมาณ 1.5 ล้านกิ่งพันธุ์ ส่งออกไปลาว กัมพูชา มาเลเซีย เวียดนาม ที่เหลือจำหน่ายในประเทศ ผลผลิตหน่อไม้สด ผลิตส่วนใหญ่ 99.65% ส่งขายให้พ่อค้ารวบรวมผลผลิตในจังหวัด
...
นอกจากนั้น ภาคตะวันออกยังมีความต้องการใช้ลำไผ่มากในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งผลผลิตยังมีไม่เพียงพอ ต้องนำเข้าจากภาคอื่นๆ รวมทั้งจากต่างประเทศ ปีละกว่า 6.7 ล้านลำ และมีแนวโน้มเพิ่มความต้องการใช้อย่างต่อเนื่องตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะใช้เป็นไม้ค้ำยันผลไม้ การก่อสร้าง และอุตสาหกรรมพลังงานชีวมวลที่กำลังเข้ามาในภาคตะวันออก.
สะ–เล–เต