“ภายใน 3 เดือนจะทำงานเต็มที่ก่อนที่จะเกษียณอายุราชการ โดยเน้นย้ำ 3 งานหลักที่เป็นเรื่องความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนคนไทย ได้แก่ ยาเสพติด เด็กแว้น และเงินกู้นอกระบบ” เป็นสิ่งที่ “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ยืนยันหนักแน่นว่า ทำงานจนนาทีสุดท้าย ก่อนเกษียณราชการ

เป็นการอยู่ในตำแหน่ง ผบ.ตร. อยู่ในตำแหน่งยาวนานที่สุด 5 ปี กำลังกลายเป็นประวัติศาสตร์ของ ตร. ด้วยความมุ่งมั่น ทุ่มเท เสียสละ ได้รับเสียงชื่นชมจากพี่น้องคนไทย และเป็นแบบอย่างของตำรวจรุ่นหลัง

อีก 3 เดือนที่เหลือเน้นการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของคนไทย 1 ในปัญหาสำคัญคือ ปัญหาเงินกู้นอกระบบ ที่สร้างปัญหามายาวนาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำหนดเป็นวาระเร่งด่วนให้ตำรวจบูรณาการกับหน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งแก้ไข ซึ่งก่อนหน้าเคยถูกตำรวจปราบปรามอย่างหนักจนหายไปชั่วคราว

แต่ “เงินกู้นอกระบบ” ยังไม่หมดไป ยิ่งในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 กระทบเศรษฐกิจทั่วโลก คนตกงาน แก๊งเงินกู้ฉวยโอกาสทำผิด ทำให้ปัญหาเงินกู้นอกระบบกลับมาระบาดสร้างความเดือดร้อนอีก บางรายมีการพัฒนารูปแบบที่เปลี่ยนไป มีชาวต่างชาติเข้ามาเกี่ยวข้องขยายเครือข่ายเป็น “แก๊งอาชญากรรมข้ามชาติ”

...

พล.ต.อ.จักรทิพย์จัดตั้ง ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ “ศปน.ตร.” มอบ พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นผู้อำนวยการศูนย์ ซึ่งมีการกำชับทุกหน่วย ทำให้มีผลการปฏิบัติช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อนจากเงินกู้นอกระบบได้อย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดจับกุมเครือข่ายแก๊งเงินกู้สำคัญ 2 ราย คดีแรก ศปน.ตร. ได้รับร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมากว่า ได้มีการกู้ยืมเงินผ่านแอปพลิเคชันเงินกู้นอกระบบชื่อ “TRUE CASH PRO” ซึ่งมีการเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด โดยให้ผู้กู้ติดตั้งแอปพลิเคชันลงในโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเมื่อกู้ผ่านแล้วจะถูกหักค่าบริการออกจากเงินกู้ แต่ลูกหนี้ยังต้องชำระเงินเต็มจำนวนพร้อมดอกเบี้ย

หากไม่ชำระตามกำหนดเวลา จะมีการทวงหนี้ในลักษณะข่มขู่ ด่าทอ คุกคาม และมีการส่งข้อความเกี่ยวกับการเป็นหนี้ให้แก่บุคคลที่สาม ทำให้ผู้กู้อับอายเสื่อมเสียชื่อเสียง สืบสวนพบว่า TRUE CASH PRO มีกลุ่มนายทุนต่างชาติมาดำเนินการ มีเงินหมุนเวียนในระบบต่อเดือนสูงกว่า 50 ล้านบาท มีบัญชีลูกหนี้นับหมื่นราย

พล.ต.ท.ปิยะ มอบให้ พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบช.ก.และรอง ผอ.ศปน.ตร. พล.ต.ต.สมชาย เกาสำราญ รอง ผบช.ก.และเลขานุการ ศปน.ตร. พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ปอศ. หัวหน้าชุดปฏิบัติการส่วนกลาง สืบสวน TRUE CASH PRO ระมัดระวังในการกระทำความผิด โดยย้ายที่ตั้งสำนักงานบ่อยครั้งเพื่อให้ยากแก่การติดตาม ตรวจสอบเส้นทางการเงินมีการโอนย้ายเงินไปยังบัญชีต่างๆอย่างสลับซับซ้อน

แบ่งบัญชีเงินฝากเป็นกลุ่มต่างๆตามลักษณะใช้งานคือ บัญชีรับโอนชำระหนี้ บัญชีโอนเงินกู้ให้ลูกค้า บัญชีเพิ่มทุนในระบบ และบัญชีแบ่งผลประโยชน์ และว่าจ้างบริษัททวงหนี้ ย่านโชคชัย 4 ได้รับรายชื่อลูกหนี้ให้ติดตามเดือนละ 5,000 ราย โดยทาง TRUE CASH PRO จ่ายค่าจ้างให้รายละ 580 บาท หากเก็บเงินกู้ได้ครบ

บช.ก. รวบรวมพยานหลักฐานการกระทำผิดของผู้เกี่ยวข้อง ขออนุมัติหมายจับต่อศาล 7 ราย โดยเป็นหมายจับนิติบุคคล 2 ราย บจก.ทรู ฟินเทค ในฐานะนิติบุคคล และ บจก.อีลิท เมมเบอร์ชิป ในฐานะนิติบุคคล 1 ใน 7 รายมีชาวต่างชาติเกี่ยวข้องคือ นายเหยา เซียน ตง นายหวัง ฉิว หรุย นายหยู เจ้อ จาง นายล่าง จู นายซ่ง ซ่ง จู

...

ตำรวจขอหมายศาลเข้าตรวจค้นสำนักงานที่ทำการของแอปพลิเคชัน TRUE CASH PRO ที่บ้านเช่าแห่งหนึ่งในถนนพัทยากลาง เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ผลการตรวจค้นพบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์จำนวนมากและพบพนักงานของแอปพลิเคชัน TRUE CASH PRO จำนวน 10 คน กำลังติดต่อทวงถามหนี้กับลูกหนี้และเข้าตรวจค้นบริษัททวงถามหนี้ย่านโชคชัย 4 พบกรรมการบริษัทและพนักงาน 6 คน กำลังติดตามทวงถามหนี้กับลูกหนี้

ค้น 2 แห่ง ยึดโน้ตบุ๊ก 11 เครื่อง คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 11 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 35 เครื่อง ที่ใช้ประกอบธุรกิจให้กู้ยืมเงินและใช้ทวงหนี้ จับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับ 2 คน ได้แก่ นายล่าง จู อายุ 29 ปี และนายซ่ง ซ่ง จู อายุ 28 ปี สัญชาติจีน พร้อมผู้เกี่ยวข้องอีก 17 คนมาสอบสวน อายัดบัญชีเงินฝากที่เกี่ยวข้องกับแอปพลิเคชัน TRUE CASH PRO ทั้งสิ้น 31 บัญชี จาก 6 ธนาคาร รวมเงินที่อายัดกว่า 22 ล้านบาท

รายที่ 2 พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 เปิด “ยุทธการขุดรากถอนโคนหนี้นอกระบบในเขตพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1” ระหว่างวันที่ 22-25 มิ.ย. ปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายหนี้นอกระบบ 77 จุดในพื้นที่ บช.ภ.1 จับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ 147 ราย ของกลาง 360 รายการ รถยนต์ 71 คัน รถจักรยานยนต์ 18 คัน คืนโฉนดที่ดิน 27 ฉบับ อาวุธปืน 6 กระบอก เงินสด 103,830 บาท มูลค่าความเสียหายรวม 200 ล้านบาท

...

จับกุมความผิดฐานเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราฯ (แก๊งหมวกกันน็อก) 125 ราย ทวงหนี้ในลักษณะข่มขู่ 2 ราย กู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชนฯ (กู้ออนไลน์) 2 ราย ประกอบธุรกิจสินเชื่อบุคคลฯ (รับจำนำรถ) 18 ราย

2 งานใหญ่ของ ศปน.ตร.ที่มี พล.ต.ท.ปิยะเป็นผู้บริหารงานสืบสวนปราบปราม

พล.ต.ท. ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวกับ “ทีมข่าวอาชญากรรม” ว่า “ปัจจุบันกลุ่มนายทุนเงินกู้นอกระบบมีทั้งคนไทยและกลุ่มทุนต่างชาติ ซึ่งได้เข้ามาหาประโยชน์เอารัดเอาเปรียบประชาชนที่กำลังเดือดร้อน มีการเปลี่ยนแปลงวิธีการกระทำความผิดไปจากเดิมเป็นอย่างมาก โดยนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ เพื่อให้เข้าถึงประชาชนเป็นจำนวนมากได้โดยง่าย ส่งผลให้เกิดความเสียหายในภาพรวมเป็นวงกว้าง ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ตนเข้ามาดำเนินการ มีการจับกุมที่สำคัญคือ ชุดปฏิบัติการส่วนกลาง นำโดยตำรวจสอบสวนกลาง จับกุมแก๊งชาวต่างชาติ กู้ยืมเงินผ่านแอปพลิเคชันเงินกู้นอกระบบ ชื่อ “TRUE CASH PRO” และตำรวจภูธรภาค 1 เปิดยุทธการปราบปรามแก๊งเงินกู้จับกุมกว่า 147 ราย ตำรวจยืนยันจะทำงานเต็มที่ทุกรูปแบบเพื่อปราบปรามแก๊งเงินกู้นอกระบบ”

“ปัจจุบันกลุ่มมิจฉาชีพเงินกู้นอกระบบมาในรูปแบบใหม่ๆ อาศัยความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เพื่อให้ผู้กู้สามารถเข้าถึงบริการได้ง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส โดยอาจมองข้ามถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้นตามมา ขอประชาชนอย่าได้ตกเป็นเหยื่อ อย่าหลงเชื่อ สำหรับพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน หรือต้องการแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดเกี่ยวกับเงินกู้นอกระบบ สามารถติดต่อได้ที่ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชั้น 1 อาคาร บช.ก. ถนนพระราม 1 หรือโทรศัพท์สายด่วน 1599 และ 0–2255–1898 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง”

...

ภารกิจสำคัญสุดท้ายของ “บิ๊กแป๊ะ” แก้ไขความทุกข์ร้อนชาวบ้าน ก่อนเกษียณราชการ.

ทีมข่าวอาชญากรรม