หนุ่มวัย 26 ปี เป็นโรคประหลาด ลงไปนอนเลื้อยคล้ายงูแล้วหนีออกจากบ้านไป กลับมาอีกทีเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน กลัวผู้คน ต่อมาพ่อวัย 67 ปี ประสบอุบัติเหตุเป็นอัมพฤกษ์ พร้อมกับแม่วัย 63 ปี ทำงานไม่ไหว ครอบครัวขัดสน เชื่อเป็นอาถรรพณ์งูเจ้าที่
วันที่ 18 มิ.ย. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.ยางซ้าย อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ซึ่งเป็นบ้านที่สร้างด้วยปูนชั้นเดียว หลังคามุงกระเบื้อง ส่วนฝาบ้านเป็นสังกะสีและปูนบางส่วน พบนายไพรัตน์ ทรงสม อายุ 26 ปี ที่ชาวบ้านเล่าลือว่าไปทำร้ายงูเห่า ซึ่งเป็นงูเจ้าที่ ทำให้กลายเป็นโรคประหลาดหวาดกลัวผู้คน เอาแต่เก็บตัวอยู่ภายในบ้าน
จากการสอบถาม นางจำรูญ เล่าให้ฟังว่า เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ลูกชายได้ไปหานก ดักหนูกลางทุ่งนาเพื่อนำมาขายเพื่อสร้างรายได้ให้กับครอบครัว และอยู่มาวันหนึ่งได้ไปดักหนูแล้วติดงูเห่าตัวขนาดใหญ่ แล้วนำกลับมาบ้านด้วย ภาพที่เห็นนั้นติดตาจนถึงทุกวันนี้
ภาพที่เห็นนั้นเป็นงูเห่าตัวสีดำขนาดใหญ่ โดยหัวงูเห่าเข้าไปติดอยู่ที่กับดักหนู ตรงส่วนหัวของงูตรงที่แผ่แม่เบี้ยนั้น ติดคาอยู่กับที่ดักหนู และส่วนที่ลำตัวและหางดิ้นไปดิ้นมา ซึ่งได้นำมาวางอยู่ตรงหน้าบ้าน และเมื่อกลับมาดูอีกทีงูนั้นก็ได้หายไปเหลือเพียงที่กับดักหนู

...
กระทั่งภายหลังได้เกิดอาการประหลาดกับลูกชายขึ้นมาทันที อยู่ดีๆ ก็กรีดร้องลงไปดิ้นอยู่กับพื้นดินเลื้อยไปมาคล้ายกับงูอยู่สักพักแล้วลุกขึ้นวิ่งหนีเข้าไปยังท้องทุ่งนาหายตัวไป กลับมาอีกทีกลายเป็นโรคประหลาดไม่กล้าออกจากบ้านกลัวผู้คนและเก็บตัวอยู่แต่ภายในบ้าน พาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลก็ตรวจไม่พบว่าเป็นโรคอะไรเลยเป็นปกติดี มาระยะหลังก็ต้องพึ่งทางไสยศาสตร์นำตัวไปรักษาทางพระแต่ก็ยังมีอาการเหมือนเดิมไม่ยอมออกไปไหนเก็บตัวอยู่แต่ภายในบ้านไม่ยอมพูดจากับใคร ซึ่งเป็นความเชื่อส่วนบุคคล
ต่อมาไม่นาน ตนเองกับสามี ที่มีอาชีพซื้อขายพระเครื่อง ก็ได้เกิดอุบัติเหตุทางรถจักยานยนต์ พร้อมกับตนเอง ขณะเดินทางไปเช่าพระที่ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ทำให้สามีกลายเป็นอัมพฤกษ์นอนติดเตียงทำงานหาเลี้ยงครอบครัวอะไรไม่ได้เลย ส่วนตัวเองนั้นได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย แต่ร่างกายก็อ่อนแอไม่แข็งแรง ทำงานไม่ไหว ทำให้ขัดสนเรื่องเงินทอง
ทุกวันนี้อาศัยอยู่รวมกัน 3 ชีวิต พ่อแม่ลูกที่บ้านหลังดังกล่าว มีรายได้มาจากเบี้ยยังชีพผู้ชรากับเบี้ยผู้พิการ โดยในแต่ละเดือนก็ต้องไปเชื่อของกินของใช้จากแม่ค้าแถวบ้านเพื่อนำมากินมาใช้ไปก่อน เมื่อเงินคนชราและเงินผู้พิการออกมา ก็จะนำไปใช้หนี้ให้แม่ค้าเขา ก็อยู่ไปตามประสาผู้ยากไร้ ตอนนี้ชีวิตลำบากยากเข็ญมาก ลูกชายที่เป็นโรคประหลาดทำงานอะไรไม่ได้เลย ส่วนสามีก็มาพิการ ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ ส่วนตัวเองก็ทำงานไม่ไหว จึงอยากวอนขอความช่วยเหลือ ผู้ใจบุญและผู้มีจิตศรัทธา ช่วยเหลือนำตัวลูกชายไปรักษาให้หายจากโรคประหลาด เพื่อที่จะได้กลับมาทำงานหาเลี้ยงครอบครัว

ด้าน นางสาว มาเรียม เลิศลภ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.ยางซ้าย เล่าให้ฟังว่า ชาวบ้านลือว่า นายไพรัตน์ ป่วยเป็นโรคประหลาด ที่เกิดจากการไปวางกับดักหนู แล้วที่กับดักหนู ไปหนีบหัวงูเห่า เจ้าที่ตัวขนาดใหญ่ แล้วนำกลับมาบ้านให้แม่ดูก่อนที่งูเห่าตัวนั้นจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย แล้วกลับมาสิงร่างนายไพรัตน์ ทำให้เลื้อยเป็นงูอยู่กับพื้นดินหน้าบ้าน ก่อนลุกขึ้นวิ่งหนีเข้าป่ากลางทุ่งนาไป เมื่อเดินกลับมาบ้านก็กลายเป็นโรคประหลาด เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 3 ปีมาแล้ว
ปัจจุบันครอบครัว ของป้าจำรูญ ต้องอยู่กันแบบขัดสน สามีที่มีอาชีพซื้อขายพระเครื่อง ก็ต้องมาประสบอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์ เป็นอัมพฤกษ์ ส่วนป้าจำรูญ ก็ร่างกายไม่แข็งแรง ทำงานไม่ไหว ส่วนทางราชการก็ช่วยได้ตามขั้นตอนของทางราชการแล้ว แต่ชีวิตครอบครัวของพวกเขายังมีความยากลำบากอยู่ วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือในการนำตัวลูกชายที่ป่วยเป็นโรคประหลาดไปรักษา เพื่อที่จะหายแล้วมาทำงานเลี้ยงดูพ่อแม่ต่อไป
สามารถช่วยเหลือได้ที่บัญชีธนาคารออมสิน สาขาโพธิ์ทอง หมายเลขบัญชี 020327942270 นางสาวจำรูญ ทองแตร และนางสาว มาเรียม เลิศลภ และนายสมเกียรติ งามวิลัย.