กระบวนการยุติธรรม ดูเหมือนมีความขัดแย้งกันอีกแล้ว? เมื่อสำนวนคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ ฆ่าโหดอำพรางคดี น.ส.กลิ่นเกษร วงษ์สิงห์ ทิ้งศพในรถจมคลองชัยนาทป่าสัก จ.สระบุรี ส่งฟ้องศาลไม่ทัน?!
ตามกฎหมายต้องปล่อยตัวผู้ต้องหา 3 คนไปก่อน ประกอบด้วย นายสันติ หรือเสี่ยไฮ้ จึงทองดี ผู้ต้องหาที่ 1 และ นายนิวัฒน์ หรือแจ็ก เฉลิมวัฒน์ ผู้ต้องหาที่ 2 และ นายมาโนช สอบสวัสดิ์ ผู้ต้องหาที่ 3
เรื่องนี้เคยเป็นคดีดัง เนื่องจากผู้ตายหายตัวไปถึง 3 ปี กว่าจะมีคนไปพบศพที่เหลือแต่โครงกระดูกในซากรถจมอยู่ในคลอง!
หลังตำรวจคลี่คลายคดีสำเร็จ จับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คนส่งตัวเข้าเรือนจำได้ หลายคนเบาใจ นึกไม่ถึงว่า การทำสำนวนคดีตามกฎหมายให้เวลา 84 วันจะไม่พอ?
พนักงานสอบสวน สภ.หนองโดน หอบสำนวนการสอบสวนส่งให้พนักงานอัยการจังหวัดสระบุรี วันที่ 12 มี.ค. ก่อนสำนวนระหว่างฝากขังจะครบกำหนดเพียงวันเดียว ทำให้อัยการสั่งคดีไม่ทัน
ต่อมาอัยการสั่งสอบสวนเพิ่มเติม ได้ข้อมูลครบถ้วนวันที่ 7 พ.ค. มีคำสั่งวันที่ 8 พ.ค.ฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ช่วยกันซ่อนเร้นทำลายศพ และทำให้เสียทรัพย์
แจ้งพนักงานสอบสวนให้นำตัวผู้ต้องหามาส่งวันที่ 26 พ.ค. ปรากฏว่า ผู้ต้องหาที่ 3 มาเพียงคนเดียว ส่วนอีก 2 คนเผ่นหนีไปเรียบร้อย!
เรื่องทั้งหมดเงียบกริบ ไม่มีข่าวกระเส็นกระสายออกมาให้สังคมได้รับรู้?
หลังความแตก พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รองผบช.ภ.1 รีบประชุมทีมสืบสวนสอบสวน ออกแรงล่าตัว “เสี่ยไฮ้” พร้อมสมุนอีกรอบ
...
ปัญหาประสานงานเรื่องสำนวนคดีระหว่างตำรวจและอัยการ ทำให้คดีเสียหายมีมาตลอด?!
จะไม่กล่าวหาว่า เป็นความตั้งใจ หรือเหตุสุดวิสัย?
ยังไงงานนี้ มันเสียกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบนั่นแหละ?
สหบาท