กรมสุขภาพจิต เผย 5 วิธีฟื้นฟูจิตใจในวัยแรงงาน พร้อมชี้คนไทยมีความตระหนักในการปรับพฤติกรรมเสี่ยง ห่างไกลบุหรี่สุราเพื่อข้ามผ่านความเสี่ยง เลี่ยงเชื้อ "โควิด-19"

นายแพทย์จุมภฏ พรมสีดา รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า คนวัยแรงงาน หรือ วัยทำงาน เป็นทรัพยากรบุคคลอันมีค่า เป็นพลังที่เข้มแข็งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ อันส่งผลต่อการพัฒนาประเทศ ตลอดระยะเวลามากกว่า 50 ปีที่ผ่านมา หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนได้แสดงออกถึงการยกย่องคุณประโยชน์ของคนวัยนี้ด้วยการจัดกิจกรรมต่างๆ ในวันแรงงานแห่งชาติตลอดมา

แต่ปีนี้ทั่วโลกกำลังเผชิญกับสถานการณ์วิกฤติจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบทางลบในทุกด้านของทุกประเทศ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ส่งผลให้รายได้ลดลงหรือขาดรายได้ บางรายต้องตกงาน เกิดความไม่มั่นคงในครอบครัว ปัญหาต่างๆ เหล่านี้ล้วนส่งผลต่อสุขภาพจิตคนวัยทำงาน ไม่ว่าจะทำให้เกิดความเครียด ความท้อ ความโดดเดี่ยว ความทุกข์ใจ

ทั้งนี้ กรมสุขภาพจิตได้ทำการสำรวจสรุปบทเรียนจากการก้าวผ่านวิกฤติ โดยแนะนำว่า การก้าวผ่านสถานการณ์ในขณะนี้พี่น้องชาวไทยต้องรับมือด้วย "5 พลังใจที่สร้างสรรค์" ดังนี้

1. ตั้งสติ ด้วยพลังใจที่เข้มแข็ง เมื่อวิกฤติเข้ามาในชีวิต ตั้งสติให้ดีอย่าเพิ่งท้อใจหรือหมดหวัง

2. ปรับตัวและปรับใจ กล้าเผชิญกับปัญหาที่เข้ามา ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจปรับเปลี่ยนตัวเอง และปรับใจที่จะยอมรับความเปลี่ยนแปลงเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาที่เข้ามาให้ดีขึ้น

3. สำรวจความสามารถของตนเอง เรียนรู้หรือฝึกฝนได้ รวมทั้งหาช่องทางสร้างรายได้เพิ่มขึ้น

4. หมั่นกระตุ้นพลังใจที่สร้างสรรค์ของตนเอง เพื่อสร้างความมุ่งมั่นให้กับตนเองที่จะก้าวข้ามปัญหาไปให้ได้

...

5. ส่งต่อพลังใจที่สร้างสรรค์ให้ผู้อื่น ด้วยการบอกเล่าประสบการณ์การแก้ปัญหาเศรษฐกิจในครอบครัวที่ผ่านมาได้ เพื่อให้ผู้อื่นเกิดพลังใจ หรือแม้แต่การให้ก็เป็นการสร้างพลังใจที่ดีเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม กรมสุขภาพจิต เน้นย้ำเจ้าหน้าที่กรมสุขภาพจิตและระบบสาธารณสุขต้องมีการติดตามดูแลจิตใจของประชาชนชาวไทย เนื่องจากในภาวะการระบาดของโควิด ประชาชนจะมีความวิตกกังวล เครียด กลัว เศร้า จะต้องได้รับความช่วยเหลือทางด้านจิตใจอย่างใกล้ชิด จะช่วยให้สามารถฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจได้ดี และลดผลกระทบด้านสุขภาพจิตในระยะยาว.