พุ่งขึ้นพรวด ชนไก่ก็เยอะ
โฆษก ศบค.เผยมาตรการ ผ่อนปรนจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์วันแรก ทำสถิติคนมั่วสุมก๊งเหล้าสูงสุดถึง 60 เปอร์เซ็นต์ รองลงมาเล่นพนัน และเสพยา กทม.จับมากสุด ที่โคราชเซียนไก่ไม่สนมาตรการคุมเข้มรวมตัวชนไก่โดนปิดล้อมได้ 24 คน ส่วนที่อุดรธานีจับคาสังเวียน 7 คน 1 ในนั้นวิ่งหนีสุดชีวิตถึงกับเป็นลมล้มพับ เจ้าหน้าที่ต้องช่วยปฐมพยาบาล ด้านนายอำเภอแม่อายนำทีมบุกทลายวงไพ่ ส่วนที่นครนายกหนุ่มทนคิดถึงแฟนสาวไม่ไหวชวนเพื่อนขี่ จยย.ข้ามจังหวัดฝ่าเคอร์ฟิวมาหา ไม่รอดถูกจับพร้อมยาบ้าอีก 4 เม็ด
การผ่อนปรนขายเหล้า เป็นเหตุให้มีการกระทำ ผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินมากสุด โดยเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 3 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวันว่า การปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ด้านความมั่นคง ระหว่างวันที่ 3 พ.ค. เวลา 22.00 น. ถึงช่วงเช้าวันที่ 4 พ.ค. พบผู้ออก นอกเคหสถาน 690 ราย เพิ่มขึ้น 136 ราย มีผู้ชุมนุมมั่วสุม 129 ราย เพิ่มขึ้น 22 ราย พบว่าการดื่มสุรามาเป็นอันดับ 1 ที่ 60 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากเมื่อวันที่ 3 พ.ค. มีการผ่อนปรนให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ อันดับ 2 การพนัน 21 เปอร์เซ็นต์ และอันดับ 3 เสพยาเสพติด 11 เปอร์เซ็นต์
ด้านศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) สรุปการกระทำผิดฝ่าฝืน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ตั้งแต่เวลา 22.00 น. วันที่ 3 พ.ค. ถึงเวลา 04.00 น. วันที่ 4 พ.ค. โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นบุคคล รวม 25,029 ราย และยานพาหนะรวม 19,138 คัน จังหวัดที่มีสถิติการจับกุมผู้ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กรณีออกนอกเคหสถานสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ กทม. 70 คน ปทุมธานี 64 คน และภูเก็ต 53 คน สาเหตุการชุมนุมมั่วสุม 3 อันดับแรกคือดื่มสุราร้อยละ 60 ลักลอบเล่นพนันร้อยละ 21 และเสพยา เสพติดร้อยละ 11 ผู้ฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ ตามมาตรา 18 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
...
ที่ จ.อุดรธานี นายดรณ์ สมิตะเกษตริน นายอำเภอเมืองอุดรธานี สั่งการให้นายชัยวัฒน์ ธรรมวัตร ปลัดอำเภออาวุโส และนายเฉลิมศักดิ์ อินทร์หา ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงอำเภอเมืองอุดรธานี นำกำลัง อส.ไปตรวจสอบการลักลอบเปิดบ่อนไก่ชนบริเวณหลังบ้านนายมานิตย์ โสตะ อายุ 56 ปี บ้านหนองแคน หมู่ 13 ต.โนนสูง อ.เมืองอุดรธานี เมื่อไปถึงพบเซียนไก่ชนราว 20 คน จับกลุ่มส่งเสียงเชียร์ไก่รอบสังเวียน เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ทั้งหมดพากันแตกตื่นวิ่งหนี มีเซียนไก่ชน 1 คน วิ่งหนีสุดชีวิตเกิดเป็นลมล้มพับไป เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันปฐมพยาบาล ขณะที่นายเฉลิมศักดิ์ ปลัดวิ่งไล่เซียนไก่จนหกล้มข้อเท้าขวาบาดเจ็บ ก่อนจับผู้ต้องหาได้ 7 คน พร้อมของกลางสังเวียนไก่ชน 2 สังเวียน ไก่ชน 4 ตัว เงินสด 40 บาท สุ่มไก่ 4 ใบ และอุปกรณ์ประคบไก่ 1 ชุด คุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว
สอบสวนนายมานิตย์ เจ้าของบ้าน รับสารภาพว่า เลี้ยงไก่ชนและซ้อมไก่อยู่หลังบ้านประจำทุกวัน โดยมีเซียนไก่ชนมารบเร้าให้ซ้อมไก่และมารวมตัวกันตีไก่ โดยมีวางเดิมพันติดปลายนวมบ้าง คิดว่าไม่ผิดอะไรเพราะไม่ได้เล่นกันเวลากลางคืน ขณะที่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าพฤติกรรมดังกล่าวนอกจากมีความผิดฐานเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนัน (ชนไก่) ส่วนเซียนไก่ผิดข้อหาร่วมกันลักลอบเล่นการพนัน (ชนไก่) ยังเป็นการมั่วสุมกันเล่นการพนันอันเป็นการกระทำการฝ่าฝืนข้อกำหนด ออกตามความมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 คือผู้ใดฝ่าฝืนข้อกำหนดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ด้าน พ.ต.ท.ไพฑูรย์ อ่อนคำ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองนครราชสีมา นำกำลังไปปิดล้อมบ่อนไก่ชนบ้านเลขที่ 322 ถนนเบญจรงค์ ต.ในเมือง หลังรับแจ้งว่ามีการมั่วสุมเล่นการพนันชนไก่ส่งเสียงดัง ก่อนจับเซียนไก่ชนได้ 24 คน โดยมีนายเอนก หมั่น-หมื่นไวย แสดงตัวเป็นผู้จัดให้เล่นพนัน พร้อมของกลางไก่ชน 2 ตัว สุ่มไก่ 1 ใบ นาฬิกาจับเวลา 1 เรือน และเงินสดจำนวนหนึ่ง แจ้งข้อหาร่วมกันกับพวกที่หลบหนีลักลอบเล่นการพนันชนไก่พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต และชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค
ส่วน จ.เชียงใหม่ นายสิทธิศักดิ์ อภิกุลชัยสุทธิ์ นายอำเภอแม่อาย ร่วมกับ พ.ต.อ.ชลเทพ ใหม่ไชย ผกก.สภ.แม่อาย และ ร.ต.อ.วิวัฒน์ชัย จันทบูรณ์ รอง ผบ.ร้อย ตชด.334 สนธิกำลังจับกุมนักพนันที่บ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 8 ต.แม่อาย หลังแอบลักลอบเล่นการพนัน (จอก่า) ได้ผู้ต้องหา 5 คน เป็นชาย 1 คน และหญิง 4 คน พร้อมของกลาง ไพ่ 2 สำรับ เงินสด 580 บาท ผ้าปูพื้น ที่ใช้ปูเล่นไพ่ 1 ผืน คุมตัวดำเนินคดีข้อหาร่วมกันลักลอบเล่นการพนันไพ่ (จอก่า) เอาทรัพย์สินกันโดยมิได้รับอนุญาต และชุมนุมมั่วสุมกัน อันเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
...
ที่จุดตรวจเคอร์ฟิวและคัดกรองโควิด-19 ถนนเทพรัตน ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ พ.ต.ท.สมบัติ โชติไพรัตน์ สวป.สภ.บางแก้ว ร่วมกับตำรวจ สภ.บางปู ทหาร ฝ่ายปกครอง และสาธารณสุข ตรวจค้นรถกระบะโตโยต้า แค็บ สีขาว ทะเบียน บบ 1976 หนองคาย มีนายกันตพล แสงใส อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62 หมู่ 7 ต.พระบาทนาสิงห์ อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย เป็นคนขับ และเพื่อนเป็นเยาวชนชายหญิงนั่งมาอีก 2 คน สอบสวนนายกันตพลทราบว่า ขับรถมาจาก จ.หนองคาย เพื่อมาหางานทำ ช่วงเย็นไปซื้อสุรามานั่งดื่มที่ห้องพักย่านสำโรงจนดึก จากนั้นขับรถไปส่งน้องและเจอด่านดังกล่าว จึงคุมตัวดำเนินคดีข้อหาเมาสุราขับรถ และฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
จ.อ่างทอง นายฉัตรชัย เย็นทรวง ปลัดอำเภอป่าโมก นำเจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็วร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าโมก ออกตรวจพื้นที่ในซอยบ้านพักนายอำเภอป่าโมก หมู่ 3 ต.โรงช้าง พบชายต้องสงสัย ขี่รถ จยย.ฮอนด้า สีดำ ทะเบียน 1 กข 2546 พระนครศรีอยุธยา ท่าทางมีพิรุธ นำตัวมาสอบสวนทราบชื่อนายกิตติพงษ์ ดาวดวงน้อย อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32/2 หมู่ 1 ต.โรงช้าง อ.ป่าโมก โดยนายกิตติพงษ์อ้างว่าทำงานในสถาบันการเงินและต้องไปโอนเงินให้สโมสรฟุตบอลต่างประเทศ เพราะในต่างประเทศเป็นเวลากลางวัน เจ้าหน้าที่เห็นพูดจาวกไปวนมา ไม่มีเหตุอันควร จึงคุมตัวดำเนินคดีความผิดฝ่าฝืนออกนอกเคหสถานเวลา 22.00-04.00 น.
ขณะที่ ร.ต.อ.ยิ่งยศ จันนา รอง สวป.สภ.องครักษ์ จ.นครนายก ร่วมกับนายสุเทพ พงษ์ธัญการ ปลัดอำเภอองครักษ์ คุมตัวนายนที หรือกี มะลิวัล อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 หมู่ 5 ต.ดอนฉิมพลี อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา และนายสมหมาย หรือลี่ ยีหวังนิ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/1 หมู่ 5 ต.ดอนฉิมพลี อ.บางน้ำเปรี้ยว ขณะขี่รถ จยย.ยามาฮ่า ฟีโน่ สีฟ้า-ดำ ทะเบียน 1 กฒ 8401 ฉะเชิงเทรา มาตามถนนสายเลียบคลองหกวา หมู่ 5 ต.พระอาจารย์ พร้อมยาบ้า 4 เม็ด และยาไอซ์ 0.45 กรัม สอบสวนทั้งคู่รับสารภาพว่าไม่ได้ทำงานอะไร ก่อนเกิดเหตุนายนทีคิดถึงแฟนสาวที่มีบ้านอยู่ใน อ.องครักษ์ จึงชวนนายสมหมายขี่รถข้ามจังหวัดไปหา ทั้งที่รู้ว่าเป็นช่วงเวลาเคอร์ฟิว แต่ยังไม่ทันเจอหน้าแฟนถูกจับเสียก่อน หลังสอบปากคำตำรวจตรวจปัสสาวะทั้งคู่พบฉี่ม่วง แจ้งข้อหาออกนอกเคหสถานโดยไม่มีเหตุอันควร เสพยา และมียาเสพติดประเภทที่ 1 ไว้ครอบครอง
...